ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - กลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง เรียกร้องรัฐบาลใหม่วางนโยบายรับมือการค้าเสรีด่วน หลังทุกพรรคมุ่งแต่ประชานิยม ย้ำภาคอุตสาหกรรมไทยมีสิทธิ์เดี้ยงถ้วนหน้า ครวญเฉพาะ 200 เซรามิกลำปาง แบกขาดทุนร่วม 4 ปีแล้ว
นางสุปราณี ศิริอาภานนท์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ,ผู้บริหารบริษัท เอสพีพี เซรามิค จำกัด 1 ในผู้ประกอบการเซรามิกเพื่อการส่งออกรายใหญ่ของจังหวัดลำปาง เปิดเผย ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเซรามิกในลำปางที่มีมากกว่า 200 โรงงาน เคยทำรายได้เข้าประเทศมากกว่า 3 พันล้านบาทต่อปี อยากเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้าบริหารประเทศหลังการเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 วางนโยบายรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากกรอบข้อตกลง FTA อาเซียน-จีน รวมถึงประชาคมอาเซียน ไม่ใช่มุ่งเน้นแต่การทำประชานิยมเท่านั้น
เธอบอกว่า การเปิดเสรีทางการค้าในประเทศอาเซียน รวมถึงจีน จะส่งกระทบต่อระบบการค้าในประเทศอย่างรุนแรงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งไทยยังไม่ได้เตรียมรับมือกับปัญหานี้อย่างจริงจังซึ่งเป็นอันตรายมาก
“ที่เห็นชัดคือ การเปิดถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ ผ่านเข้าไทยทางอ.เชียงของ จ.เชียงราย ทำให้สินค้าจีนหลากหลายรูปแบบทะลักเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างมากมาย กระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศอย่างเลี่ยงไม่พ้น ขณะที่พรรคต่าง ๆ มุ่งแต่นโยบายประชานิยมหวังคะแนนเสียงเท่านั้น แต่ภาคอุตสาหกรรมกำลังจะตายในอนาคตอันใกล้นี้”
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซรามิกของลำปาง ที่ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ และต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นที่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น การประกาศขึ้นค่าจ้างท่ามกลางต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้ประกอบการ วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว รวมถึงการลอยตัวก๊าซแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมถือว่ากระทบหนักสุด ขณะที่ผู้ประกอบการต้องขายสินค้าตามยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศในราคาเดิม
ผู้บริหารบริษัท เอสพีพี เซรามิค จำกัด เผยอีกว่า นอกจากปัญหาที่กล่าวมาแล้วการส่งออกเซรามิกในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาทำให้ยอดจำหน่ายสินค้าประเภทเซรามิกไปต่างประเทศต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ไม่คงที่ ทำให้รายได้ของการส่งออกเซรามิกหายไปกว่า 2,000 ล้านบาท จากยอดเมื่อปี พ.ศ.2550 ที่มีมากกว่า 3,000 ล้านบาท
จากต้นทุนสูงที่ขึ้นนี้เอง ทำให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเซรามิกไม่กล้าทำตลาดใหม่หรือขยายตลาดใหม่จนกว่าปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายลง
ด้านนายมงคลพันธ์ ศิริปัญญา ที่ปรึกษาสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง กล่าวยอมรับว่า ผู้ประกอบการเซรามิกลำปางกำลังเผชิญกับปัญหาภาวะแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นจริง อันเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลที่เดินหน้าประกาศลอยตัวก๊าซแอลพีจี ในภาคอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ประกอบการไม่มีทางเลือกอื่นๆเนื่องจากก๊าซแอลพีจี เป็นเชื้อเพลิงหลัก ในกระบวนการผลิตเซรามิก รวมทั้งค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องหันมาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและเร่งด่วนเพื่อให้อุตสาหกรรมเซรามิกอยู่รอดต่อไป
