xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” โชว์พลังปราศรัยหาเสียงชาวตราดกลางสายฝน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด-“อภิสิทธิ์ ปราศรัยชาวตราดท่ามกลางฝนตกหนัก แต่ชาวตราดยังนั่งรอฟัง อ้อนขอทำงานต่ออีก 4 ปี เพื่อชาวไทยไม่ใช่เฉพาะคนบางกลุ่มที่พรรคคู่แข่งเสนอ บอกใช้นโยบายพัฒนาภาคตะวันออก ทั้งรถไฟความเร็วสูง และพัฒนาพท.ศก.ร่วมกัมพูชา



การเปิดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก จันทบุรี ตราด และระยอง ในวันนี้ (11 มิ.ย.54) เริ่มพร้อมกันในเวลา 15.00 น. โดยมีแกนนำพรรคประกอบด้วย ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายชำนิ ศักดิเศรษฐ นายอลงกรณ์ พลบุตร และนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ที่จะเดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์เพื่อปราศรัยในเวที จ.จันทบุรี เป็นเวทีแรกในเวลา 17.30 น.แล้วเดินทางมาที่ จ.ตราดในเวลา 19.00 น. และเดินทางไปยัง จ.ระยอง ในเวลา 20.30 น.

โดยเวทีที่ จ.ตราด ตั้งเวทีที่ตลาดเอกสินชล ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จงตราด นายประทีป เลขาพันธ์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ จงตราด ท่ามกลางสายฝนที่ตั้งเค้ามาอย่างหนาแน่น แต่ยังมีประชาชนชาวตราดกว่า 1,000 คน รอฟังการปราศรัย กระทั่งในเวลา 16.30 น. นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ขึ้นปราศรัยเป็นวันแรกเพียงไม่นานก็เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำร่มขนาดใหญ่มากางให้ ขณะที่ประชาชนก้ไม่ยอมถอยและกางร่มใส่ชุดกันฝนชูเบอร์ 10 และโปสเตอร์นายธีระ สลักเพชร

นายชำนิ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้โพลของสำนักต่างๆ เริ่มห่างไป แต่โพลของพรรคปชป. ได้ทำการสำรวจทุกสัปดาห์ในพื้นที่ทั้งประเทศ และพบว่าตัวเลขการได้รับการเลือกตั้งของพรรคปชป.กับพรรคเพื่อไทย มีคะแนนเสียงคุ่คี่กันมาก คือสูงในระดับ 200 เสียงทั่วประเทศ คือภาคใต้จะได้ 50 ที่นั่ง

กรุงเทพได้ 30 ที่นั่ง กลางจะได้ 40 ที่นั่ง เหนือจะได้ 20 ที่นั่ง อิสานได้ 12 ที่นั่ง รวม สส. 152 ที่นั่ง และ สส.บัญชีรายชื่อ 55 ที่ รวม 207 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเพี่อไทยจะได้ 203 ที่นั่ง หรือบวก-ลบไม่เกิน 5 ที่นั่ง และจำนวนที่นั่งของพรรคที่นิ่งเช่นนี้มาหลายสัปดาห์ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ยังมั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งหรือแพ้ชนะก็สูสี

นายชำนิ ยังบอกว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นรัฐบาล จะทำงานทันที่ จะยกระดับเมืองท่องเที่ยว เมืองชายแดน เมืองท่าขึ้นเป็นพื้นที่พิเศษ เช่น เกาะช้างก็เป็นพื้นที่พิเศษ แหลมฉบังก็จะเป็นพื้นที่พิเศษ รวมทั้งการพัฒนาให้เทศบาลเมืองทุกจังหวัดขึ้นเป็นเทศบาลนคร เทศบาลตำบล เป็นเทศบาลเมือง อบต.ก็จะเป็นเทศบาลทุกแห่งเพื่อสร้างความเจริญสู่ท้องถิ่นให้มากที่สุด

จากนั้น นายธีระ สลักเพชร ขึ้นกล่าวปราศรัย ต่อเพื่อรอคอยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่กำลังเดินทางในเวลา 19.00 น. โดยนายธีระ ได้กล่าวถึงภาพรวมของการทำงานพัฒนา จ.ตราด และการนำงบประมาณมาพัฒนา จ.ตราด ตลอดปี 2552 - ปี 2554 มีงบประมาณมากกว่า 10,000 ล้านบาท

ทั้งงบปกติและงบไทยเข้มแข็ง ขณะที่พรรคไทยรักไทยสมัยเป็นรัฐบาลประกาศว่าจะผลักดันงบประมาณมาให้หลายโครงการแต่เมื่อไม่เลือกผู้สมัครจากพรรคทำให้ตัดงบประมาณทั้งหมด หรือได้ก็ได้ไม่ครบโครงการเช่น โครงการพัฒนาเกาะช้าง

ต่อมา นายอลงกรณ์ พลบุตร ได้ขึ้นมากล่าวประมาณ 5 นาที นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ก็เดินทางมาถึง ท่ามกลางประชาชนที่ฮือเข้ามารุมล้อมและมอบรูป พวงมาลัย ผลไม้ และส่งของให้จำนวนมาก ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก แต่ประชาชนก็ยังรุมล้อมมอบดอกไม้ให้

กระทั่ง นายอภิสิทธิ ขอร้องให้ประชาชนกลับไปนั่งและขอกล่าวปราศรัยและเมื่อจบแล้วจะเดินไปพบ ซึ่งนายอภิสิทธิได้กล่าวถึง ภาพรวมของผลงานพรรคประชาธิปัตย์ใน 2-3 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างหลักประกันในด้านสาธารณสุข การศึกษา การประกันสุขภาพ หรือการปลดหนี้สินต่าง ๆ ที่เป็นโครงการที่สัญญาว่าจะทำใน 99 วัน ก็สามารถดำเนินการได้ตามที่ได้หาเสียงไว้

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ ได้กล่าวตอบโต้พรรคเพื่อไทยกรณีเรื่องโครงการประกันสินค้าเกษตร ที่พรรคเพื่อไทยบอกว่าหากเป็นรัฐบาลจะยกเลิกและใช้การจำนำสินค้าเหมือนเดิม ที่ผ่านมาการจำนำสินค้าเกษตกรทำให้เกษตกรไม่ได้ประโยชน์ รัฐบาลก็ขาดทุน แต่สิ่งพรรคเพื่อไทยกำลังตอบโต้คู่แข่งและผู้ตรวจสอบโดยอาศัยคำว่าปรองดองเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องยอมรับ

เพราะกลุ่มตรวจสอบ ก็มีสิทธิทำได้ แต่ทำไมต้องไปฟ้องหรือข่มขู่ กรณีของกองทัพที่ออกมาช่วยปราบปรามยาเสพติดก็ไปข่มขู่ จึงเป็นสิ่งที่เพื่อไทยต้องกลับไปทบทวนบทบาท และไม่ควรทำให้ประชาชนสับสน และคนเสื้อแดงก็ไม่ใช่เป็นคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ยังมีประชาชนอีกหลายกลุ่มและเป็นคนส่วนใหญ่ด้วยที่รัฐบาลต้องเข้าไปดูแลและให้ความเป็นธรรม

“ผมจึงขอบอกให้พี่น้องประชาชนชาวตราดได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผม เลื่อกพรรคประชาธิปัตย์ เลือกธีระ สลักเพชร เพื่อเข้าไปสร้างบ้านสร้างเมือง และพวกผมจะเดินทางทำงานทันที่ ผมจะทำงานอย่างทุ่มเท ขอเวลาอีก 4 ปีเพื่อสร้างบ้านเมืองให้ก้าวหน้า วันที่ 3 กรกฎาคม ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในช่วงสั้น ๆ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่จะพัฒนาภาคตะวันออกในหลายโครงการทั้งพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง การสร้างรถไฟความเร็วสูงมาลงที่ระยอง การแก้ปัญหาราคาผลไม้โดยการประกันราคา แม้ในปีนี้จะยังไม่ได้ทำแต่ก็นำงบประมาณมาให้ท้องถิ่นดำเนินการและบวกกำไรไว้ให้แล้ว ส่วนในพื้นที่ชายแดนก็จะพัฒนาร่วมกับกัมพูชาทั้งในพื้นที่ทางบกและพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งคงต้องมีการหารือกับประเทศเพื่อนบ้านในโอกาสต่อไป

หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ เดินลงจากเวที ท่ามกลางประชาชนรุมล้อมและขอถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง จากนั้นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ขึ้นปราศรัยต่อ แม้จะมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับ กระทั่ง ปิดทีในเวลา 21.30 น.



กำลังโหลดความคิดเห็น