เพชรบุรี - เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายบุกตรวจกองหินขนาดใหญ่ภายในบึงปรีดา หลังมีชาวบ้านร้องเรียนให้เข้าตรวจสอบ หวั่นเกิดอันตราย ตรวจสอบพบเป็นแร่เหล็กที่มีมากกว่า 40,000 ตัน เจ้าของบึงชี้เป็นของเพื่อนนำมาฝากไว้ และกำลังเร่งดำเนินการเอาออกนอกพื้นที่
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายธนมิตร พิพิธธนาบรรพ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ท่ายาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมปฏิบัติการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง และผู้นำท้องถิ่นในตำบล เข้าตรวจสอบกองดินขนาดใหญ่ที่กองอยู่บนเนื้อที่ภายในบึงปรีดา หมู่ 7 ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี หลังมีชาวบ้านร้องเรียนไปยังอำเภอท่ายาง ว่า ภายในบึงปรีดามีขุดหินแร่ไม่ทราบชนิดจำนวนมากขึ้นมาจากบ่อดิน โดยชาวบ้านหวั่นว่าแร่ดังกล่าวจะสร้างผลกระทบให้กับชาวนาเนื่องจากชาวนาส่วนใหญ่นำน้ำจากบึงปรีดามาใช้สอย โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม
จากการเข้าตรวจสอบพบกองดินที่มีลักษณะผสมปนกับหินแร่หลายขนาดจำนวนมากที่มีมากกว่า 40,000 ตัน กองอยู่บนเนื้อที่ภายในบึงปรีดาโดยมีเครื่องจักรจำนวน 2 เครื่องตั้งอยู่ด้านข้างกองดินดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นเครื่องที่ใช้สำหรับแยกแร่ให้ออกจากเนื้อดิน
จากการสอบถาม นายปรีดา หวานใจ ข้าวของบึงปรีดา ได้รับคำตอบว่ากองดินและหินที่พบเป็นแร่เหล็กที่เพื่อนนำมาฝากไว้เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเดิมแร่เหล็กเหล่านี้ถูกฝังอยู่บริเวณด้านล่างแต่ซึ่งครั้งนี้ทางบึงจะทำการปรับพื้นที่ที่มีแร่เหล็กฝังอยู่ให้เป็นสนามบินขนาดเล็กจึงได้ทำการขุดขึ้นมาพร้อมกับติดต่อเจ้าของคือนายชุบ คล้ายคลึง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องสะแก ให้นำเอาแร่เหล็กทั้งหมดที่นำมาฝากไว้ออกนอกพื้นที่แต่ทั้งนี้ได้มีคนจีนมาติดต่อซื้อแร่เหล็กดังกล่าวเพื่อต้องการนำส่งไปที่ประเทศจีน และได้นำเครื่องจักรเข้ามาแยกแร่เหล็กดังกล่าวโดยเครื่องจักรเพิ่งขนย้ายเข้ามาติดตั้งได้ยังไม่ถึง 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ ได้นำเร่เหล็กที่ผสมปนกับดินไปถมถนนให้กับชาวบ้านแล้วกว่า 10,000 ตัน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 40,000 ตัน กำลังดำเนินการขนย้ายออกนอกพื้นที่อยู่ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 1 เดือนจะทำการขนย้ายเสร็จสิ้น
ด้าน นายธนมิตร พิพิธธนาบรรพ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ท่ายาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแร่เหล็กที่มีจำนวนมากซึ่งไม่ทราบว่าจะมีอันตรายใดๆ หรือไม่ในส่วนนี้ต้องมอบหมายให้กับทางสำนักงานอุตสาหกรรรมจังหวัดเพชรบุรีประสานไปยังหน่วยเก็บตัวอย่างเพื่อเก็บหินแร่ที่พบเข้าแลปเพื่อตรวจสอบว่ามีสารพิษเจือปนอยู่หรือไม่
ส่วนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรีก็จะต้องประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบเช่นกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของเครื่องจักรจะต้องมีการดำเนินการตรวจสอบว่ามีการแจ้งขอใบอนุญาติเครื่องจักร และใบอนุญาตโรงงานอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งให้หยุดดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะได้ผลตรวจจากแลปก่อนว่าแร่เหล็กที่พบในพื้นที่มีสารพิษที่เป็นอันตรายเจือปนหรือไม่อย่างไร
