xs
xsm
sm
md
lg

“พ่อคูณ” อ่อนเพลีย ตัวบวม - แพทย์ระบุต้องรักษา “หัวใจ” ควบคู่ “วัณโรค”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ รักษาอาพาธที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา อาการยังอ่อนเพลีย  ตัวบวมเหตุมีน้ำในปอดมาก แพทย์ต้องรักษาโรคหัวใจควบคู่วัณโรคปอดและเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิด วันนี้ ( 6 มิ.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หลวงพ่อคูณ” ยังอ่อนเพลีย ตัวบวม เหตุมีน้ำในปอดมาก แพทย์ให้ยาขับปัสสาวะ ส่งผลฉี่บ่อย ส่วนภาวะแทรกซ้อน ทำให้ระบบหัวใจเต้นผิดปกติ ต้องใช้เวลารักษาโรคหัวใจควบคู่ไปกับการรักษาวัณโรคปอด แพทย์ยังกังวลต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ชี้ สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ตลอดเวลา ขณะน้ำหนักเพิ่มเป็น 40.5 กก.

วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาวัณโรคปอดอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นานกว่า 1 เดือน แล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ หลวงพ่อคูณยังมีอาการอ่อนเพลีย และปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ เนื่องจากแพทย์ให้ยาขับปัสสาวะ เนื่องจากในช่วงที่หลวงพ่อคูณเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดลดเฉียบพลันทำให้แพทย์ต้องให้น้ำเกลือเข้าไปมาก ส่งผลให้มีน้ำในปอดมากจึงต้องขับน้ำออกมาและทำให้พ่อคูณปัสสาวะบ่อยดังกล่าว

เจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าวัดความดันโลหิต ภาวะการเต้นของหัวใจ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนภาวะน้ำตาลในเลือดยังสูงเล็กน้อยอยู่ที่ 277 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยพยาบาลยังเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลมหาราชนครราสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมหลวงพ่อคูณวันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ไม่มีอาการเหนื่อย หอบ แต่ยังอ่อนเพลีย และตัวบวม เสลดน้อยลง ยังมีน้ำในปอดอยู่ เนื่องจากการให้น้ำเกลือมากช่วงที่ท่านเกิดภาวะน้ำตาลลดเฉียบพลัน ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาขับปัสสาวะไปแล้ว ช่วงนี้จึงทำให้ท่านปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ

สำหรับภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้ระบบหัวใจหลวงพ่อผิดปกติ ซึ่งตรวจพบตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้เริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่หายเป็นปกติต้องใช้เวลาในการรักษาอีกสักระยะเนื่องจากโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัวหลวงพ่อคูณอยู่แล้ว นอกจากนี้ในช่วงวันเสาร์ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมายังพบว่าหลวงพ่อมีเสลดเข้าไปอุดตันหลอดลม มากทำให้หายใจลำบาก แพทย์จึงต้องให้ยาขยายหลอดลมทั้งรูปของการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ และยาพ่น

นพ.พินิศจัย กล่าวอีกว่า การให้ยารักษาวัณโรคปอดยังให้ยาสูตรเดิมต่อเนื่องไปจนครบ 8 สัปดาห์ขณะนี้ให้ไปแล้วกว่า 3 สัปดาห์ จนถึงขณะนี้ยังไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากตัวยาแต่อย่างใด ส่วนการตรวจสมองซึ่งหลวงพ่อเคยผ่านการผ่าตัดใหญ่มาก่อนหน้านี้ก็ยังไม่พบความผิดปกติ มีเพียงหัวใจที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว

“อย่างไรก็ตาม ทางทีมแพทย์ยังคงต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป ตราบใดที่หลวงพ่อคูณยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคณะแพทย์ก็ยังไม่สบายใจ เพราะในช่วงที่ทำการรักษาอยู่นี้หลวงพ่อสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ตลอดเวลา ส่วนการให้อาการทางสายยาง ยังต้องให้ต่อเนื่องไปอีก โดยวันนี้ หลวงพ่อคูณมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 40.5 กิโลกรัมแล้ว” นพ.พินิศจัย กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น