เชียงราย - พ่อแม่สาว 16 เหยื่อฆาตกรรมฆ่าฝังกลบในบ่อขยะเทศบาลตำบลบ้านดู่ เมืองเชียงราย หลั่งน้ำตาวอนตำรวจ เร่งคลี่คลายคดี-คุ้มครองพยานด่วน หลังนายก อบต.ผู้ต้องหาได้ประกัน แถมมีพยานตายปริศนาไปแล้ว 1 ราย เผยทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างหวาดผวาหนัก
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร (ภ.) จ.เชียงราย บรรดาญาติพี่น้องของ น.ส.ธิดา โสภณเกิดศิริ อายุ 16 ปี หญิงสาวชาวมูเซออยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 13 ต.บ้านดู่ อ.เมือง ซึ่งถูกฆาตกรรม และนำศพไปฝังกลบภายในบ่อขยะของเทศบาล ต.บ้านดู่ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.54 พร้อมด้วยนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เชียงราย และผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา ได้พาทีมทนายความเดินทางไปยื่นหนังสือขอให้ทราบผลในการดำเนินคดีดังกล่าว
คดีนี้มี นายจิตร ใจขันธ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 6 ต.บ้านดู่ นายกเทศมนตรี ต.บ้านดู่ ตกเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้วข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน หรือปิดบัง และซ่อนเร้นทำลายศพ ต่อมา นายจิตร ได้ประกันตัวออกมาสู้คดี
นายสวัสดิ์ โสภณเกิดศิริ อายุ 48 ปี และ นางวันเพ็ญ อายุ 46 ปี บิดาและมารดาของ น.ส.ธิดา รวมทั้ง น.ส.นพมาศ อายุ 25 ปีพี่สาวคนเดียวของ น.ส.ธิดา ต่างระบุว่า ปัจจุบันมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดผวาและกลัว เพราะไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวของตัวเอง และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ปรากฏว่าผู้ต้องหาที่มีหลักฐานและพยานบ่งชี้เอาไว้ชัดเจนกลับประกันตัวออกมาทำงานได้ตามปกติ
ขณะที่พยานคนสำคัญ คือ นายกิตติภพ ผาลาด อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 5 ม.6 ต.บ้านดู่ อ.เมือง ซึ่งเป็นคนขับรถแบ็กโฮที่ใช้ขุดและฝังกลบ น.ส.ธิดา กลับเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันอย่างน่าสงสัยเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาอีก
ดังนั้น จึงอยากให้ตำรวจได้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาและช่วยคุ้มครองพยานที่เหลือรวมทั้งคนในครอบครัวที่เหลืออยู่ด้วย
น.ส.นพมาศ กล่าวด้วยน้ำตาว่า ทุกวันนี้รู้สึกกลัวมาก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดกับลูกสาวจะมาเกิดกับพ่อแม่และคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีก็ยังคงลอยนวลอยู่ จึงอยากให้ตำรวจได้ส่งกำลังไปดูแลพ่อแม่และพยานคนสำคัญที่เหลืออยู่อีก 2 คนด้วย เพราะเดิมมีพยานคนสำคัญอยู่ 3 คนแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน
นางเตือนใจ ดีเทศก์ กล่าวว่า คนที่เสียชีวิตเป็นเพียงเด็กที่ยังเยาว์วัย และคดีกลับมีเงื่อนงำ โดยครอบครัวผู้ตายเป็นเพียงผู้ที่ทำไร่ทำนาไม่ได้มีบทบาทใดๆ แต่คู่กรณีกลับเป็นผู้นำท้องถิ่น จึงอยากให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน เพื่อให้เขาสามารถได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้จึงได้ร่วมกับชาวบ้านมายื่นหนังสือดังกล่าว
โดยกรณีดังกล่าวทาง พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ รอง ผบก.ภ.เชียงราย เข้ารับหนังสือจากครอบครัวโสภณเกิดศิริ
พ.ต.อ.ยุทธชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ต.ทรงธรรม ได้สั่งการให้ตำรวจท้องที่เข้าดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจ สภ.เมือง สามารถคลี่คลายคดีได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันเรื่องได้ช้าลง แต่ไม่ใช่ขั้นตอนของตำรวจ เพราะเราต้องรอผลการตรวจจากนิติเวช และตำรวจวิทยาการด้วย ส่วนกรณีการขอคุ้มครองพยานหรือครอบครัวผู้ตายก็ยืนยันจะดำเนินการให้แน่นอน