ศูนย์ข่าวขอนแก่น
ภายหลังที่ จ.หนองคาย ตัดแบ่งจังหวัดบึงกาฬออกเป็นจังหวัดใหม่ แถมจัดเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้เดิมมี ส.ส.5 คน ตอนนี้เหลือ ส.ส. 3 คน ใน 3 เขต ศึกเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.จึงเป็นการฟัดกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยที่ส่งผู้สมัครครบทั้ง 3 เขต ส่วนพรรคอื่น ๆ อย่าง ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน, ประชาธิปัตย์, ความหวังใหม่ และมาตุภูมินั้นส่งผู้สมัครเพียงบางเขตเท่านั้น**
เจาะลงไปในเขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่อำเภอเมือง ยกเว้นต.พระธาตุบังพวน และเวียงคุก อ.สระใคร อ.โพนพิสัย เฉพาะต.เหล่าต่างคำ ทุ่งหลวง สร้างนางขาว เขตนี้ มีนาย พงศ์พันธ์ สุนทรชัย อดีต ส.ส.เพื่อไทย ยึดครองพื้นที่นี้อย่างเหนียวแน่น งานนี้แทบจะไม่ต้องเหนื่อย
แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะส่ง นายเอกชัย หัสดี อดีต นายก อบต.กวนวัน อ.เมืองหนองคาย ลงแข่ง แถมยังขยันแนะนำตัวกับชาวหนองคายตั้งแต่ไก่โห่ ก็อาจจะแบ่งคะแนนเสียงไปได้ไม่มากนัก เพราะฐานความนิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงแน่นปึ้ก และคนเสื้อแดงในหนองคายมีจำนวนมาก
ส่วนนางสาวชมพูนุท นาครทรรพ ที่ยังคงสวมเสื้อประชาธิปัตย์ลงสนามอีกครั้ง ความที่เป็นหลานสาวของ อดีต ส.ว.นิตินัย นาครทรรพ บวกกับภาพลักษณ์ความเป็น คนเมือง คงยากที่จะได้ใจชาวบ้าน แต่อาจตัดแบ่งคะแนนจากคนในเขตเทศบาลได้บางส่วน
เช่นเดียวกับ เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอเมือง เฉพาะต.พระธาตุบังพวน และเวียงคุก อ.ท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ โพธิ์ตาก และสังคม เขตนี้ นางชมภู จันทาทอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แทบจะเรียกได้ว่า นอนมาแบบสบาย ๆ เพราะงานนี้คู่แข่ง หมูมาก ทั้งผู้สมัครหน้าใหม่อย่าง นายเจริญ จันทวงศ์ ที่เพิ่งลาออกจาก สมาชิกสภา อบจ.หนองคาย เขต อ.ท่าบ่อ ลงชิงชัยในนามพรรคภูมิใจไทย ยังคงแคบมากสำหรับสนามการเมืองใหญ่
หรือจะเป็นนายสานิตน์ นามบุปผา จากพรรคประชาธิปัตย์ ทนายความอิสระ ที่ลงสมัครผู้แทนหลายครั้งแต่คะแนนเสียงที่เคยได้ก็น้อยมาก ส่วนนายสมพงษ์ พรหมกลาง จากพรรคมาตุภูมิ อดีต กำนันตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ ก็แทบจะเป็นแค่น้ำจิ้มเล็ก ๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
แต่ที่จะต้องจับตามอง เห็นจะเป็นเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอโพนพิสัย ยกเว้นต.เหล่าต่างคำ ทุ่งหลวง สร้างนางขาว อ.รัตนวาปี และเฝ้าไร่ เขตนี้ แม้จะเป็นพื้นที่เดิมของ นายสมคิด บาลไธสง พรรคเพื่อไทย แต่งานนี้มีนายพิทักษ์ ศรีตะบุตร อดีต ส.ส.และ ส.ว.หนองคาย ประกาศลงสู้ในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และเป็นเพียงหนึ่งเดียวของพรรค เขตนี้ไม่หมูสำหรับเพื่อไทย เพราะความเป็นที่นายพิทักษ์ ศรีตะบุตร จะเก๋าเกม
แม้ช่วงที่ไม่มีตำแหน่งแห่งที่ ก็หมั่นลงพื้นที่พบกับชาวบ้านอยู่เป็นประจำ บวกกับการที่มีลูกชายอย่างนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย ที่กวาดคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างท่วมท้น แถมเขตเลือกตั้งที่แบ่งใหม่นี้ เคยเป็นพื้นที่ของ พิทักษ์ สมัยที่เป็น ส.ส.มาแล้ว มิหนำซ้ำนายสมคิด บาลไธสง ยังเคยเป็นลูกน้องเก่าของนายพิทักษ์ ศรีตะบุตร ด้วย งานนี้เพื่อไทยต้องเหนื่อยหน่อย เพราะแม้กระแส”ทักษิณ” ยังขายได้ดี ซ้ำยังมีศรีภรรยาอย่างนางทองมา บาลไธสง ที่เข้าบ้านนี้ออกบ้านนั้นจนชาวบ้านร้านตลาดรู้จักกันดี
ศึกเลือกตั้งสนามนี้จึงเข้มข้นกว่าทุกเขต และคาดว่าแม้ใครคนใดคนหนึ่งจะเข้าป้าย แต่คะแนนคงจะไม่ทิ้งห่างกันมากนัก
ข้ามไปดู สนามเลือกตั้งจังหวัดน้องใหม่ อย่างจังหวัดบึงกาฬกันบ้าง การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย ภูมิใจนักหนาว่าการได้เป็นจังหวัดใหม่ ล้วนเป็นผลงานของพรรค และชูธงเป็นนโยบายหาเสียงเฉพาะของพื้นที่ โดยจังหวัดบึงกาฬ มีเขตเลือกตั้ง 2 เขต ส.ส.2 คน แต่เดิมขณะเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดหนองคายนั้น ส.ส.เดิมมี 3 คน จากพรรคเพื่อไทยทั้งหมด
แต่พอแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่เหลือ ส.ส.ได้เพียง 2 คน ทำให้พรรคเพื่อไทย ขยับ นายยุทธพงศ์ แสงศรี ขึ้นเป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค และยังคงไว้วางใจให้นายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ ลงสมัครในเขต 1 ส่วนเขต 2 นายไตรรงค์ ติธรรม ยังคงใส่เสื้อเพื่อไทยลงสนามเช่นเดิม
ไปจับกระแสที่เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองบึงกาฬ อ.ปากคาด อ.โซ่พิสัย และ อ.บุ่งคล้า สนามนี้ ฟัดกันสนั่นเมือง ระหว่าง ส.ส.เก่าพรรคเพื่อไทย อย่างนายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ กับ นางแว่นฟ้า ทองศรี หวานใจของนายทรงศักดิ์ ทองศรี แกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย คู่นี้เห็นทีต้องช่วงชิงจังหวะกันให้ดี เพราะด้านเพื่อไทยก็ชูทักษิณ และยิ่งลักษณ์ เป็นนารีขี่ม้าขาวมาแต่ไกล ฟากนารี อย่างแว่นฟ้า ก็ชูธง ว่าพลพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ทำความฝันให้ชาวบึงกาฬเป็นจริงด้วยการผลักดันให้เป็นจังหวัดน้องใหม่
ประกอบกับช่วงก่อนประกาศยุบสภา นางแว่นฟ้า ทองศรี แทบจะกลายเป็นผู้ว่าฯบึงกาฬ ไปโดยปริยาย เปิดงานนู้น ปิดงานนี้ ลงพื้นที่หาชาวบ้านบ่อยครั้ง ขณะที่ชาวบ้านถามหาผู้แทนจากพรรคเพื่อไทยที่ไม่ค่อยมาให้เห็นหน้าค่าตา จนแทบจะลืมเลือน งานนี้ต้องกระตุ้นความจำกันใหม่อีกรอบ หากอยากได้คะแนนกาเบอร์ของพรรค
และอย่าเพิ่งลืมชื่อของ พินิจ จารุสมบัติ ที่ยังคงอยู่ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ งานนี้ส่งนายสงกรานต์ คำพิไสย์ อดีต ส.ส.หนองคาย ลงสนามในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินกับเขาด้วย ดีไม่ดีขณะที่นาง แว่นฟ้ากับ นายเชิดพงศ์ แย่งคะแนนกันสุดลิ่มทิ่มประตูอยู่นั้น เผลอ ๆ อาจมีตาอยู่ อย่างนายสงกรานต์ คำพิไสย์ ฉกคะแนนเสียงไปต่อหน้าต่อตาก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นเขต 1 บึงกาฬ อัตราการเบียดแย่งคะแนนสูงระหว่าง 3 พรรค กองเชียร์ไม่ควรกะพริบตา
ฟากของเขตเลือกตั้งที่ 2 อ.เซกา อ.พรเจริญ ศรีวิไล และบึงโขงหลง เขตพื้นที่ของนายไตรรงค์ ติธรรม พรรคเพื่อไทย เจอคู่แข่งอย่างนายสมเกียรติ ลามคำ รองนายก อบจ.หนองคาย ลงสู้ในสังกัดพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่นายพินิจ จารุสมบัติ ดูแลอยู่ ส่วนภูมิใจไทยส่งนายณรงค์ อินโพธิษา อดีตนายก อบต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ เขตนี้พรรคเพื่อไทย น่าจะได้เปรียบ เพราะพลังคนเสื้อแดงยังคงเหนียวแน่น
แต่ก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน เพราะกระสุนดินดำของภูมิใจไทยก็ยังมีอยู่มาก แถมยังประกาศจะปักธง ส.ส.บึงกาฬทั้ง 2 คนให้ได้
สนามเลือกตั้งทั้งหนองคาย และบึงกาฬ เป็นสนามชายแดนที่น่าจับตา ว่าสุดท้ายแล้ว คนลุ่มน้ำโขงจะเทใจให้ผู้สมัครจากพรรคไหน จะสมหวัง หรือ ผิดคาด วันที่ 3 ก.ค.เป็นวันชี้ชะตา