หนองคาย - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ย้ำตำรวจทุกนายต้องวางตัวเป็นกลาง เฝ้าระวังมือปืนรับจ้างเข้าป่วนพื้นที่ จับตาผู้เคยก่อคดีปล้นฆ่าหลังพ้นโทษ หวั่นก่อเหตุซ้ำ แจงกรณีร้องเรียน ผกก.บึงกาฬ วางตัวไม่เป็นกลาง สอบเบื้องต้นพบตำรวจระดับผู้กำกับด้วยกันกลั่นแกล้งกันเอง โยงขัดแย้งส่วนตัว
ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ตรวจติดตามสถานการณ์การเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส. และการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ซึ่งยังไม่พบการกระทำที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้งหรือเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ รวมถึงยังไม่มีผู้สมัครรายใดขอกำลังคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ
พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ขอย้ำให้ตำรวจทุกนายวางตัวเป็นกลาง ไม่ลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ให้ดูแลความปลอดภัยกับผู้สมัครทุกคน ทุกพรรค ไม่ว่าจะในการหาเสียงในพื้นที่ การเปิดเวทีปราศรัย ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ไม่ให้มีการขว้างปาสิ่งของใส่ผู้สมัครหรือทำร้ายหัวคะแนน จับตาความเคลื่อนไหวมือปืนรับจ้างทั้งในและนอกพื้นที่รวมถึงผู้ที่เคยต้องโทษคดีปล้น ฆ่า
ทั้งนี้ หากพ้นโทษจากการกักขัง ให้เจ้าหน้าที่ประสานพูดคุยเพื่อไม่ให้ถูกว่าจ้างหรือล่อลวงก่ออาชญากรรมซ้ำอีก ตรวจสอบป้ายหาเสียง โดยเฉพาะตามทางเปลี่ยวมักจะถูกกรีดทำลายป้ายหาเสียง ต้องหมั่นจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจ รวมถึงจัดเก็บหีบเลือกตั้งเก่าให้เป็นสัดส่วน ไม่ให้เกิดช่องว่างในการปลอมปนหรือสับเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งได้
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่า พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ พลพุทธา ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ วางตัวไม่เป็นกลางนั้น ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ได้สอบถามกรณีดังกล่าวแล้วทราบว่า พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ รับตำแหน่งประธาน กกต.เขตเลือกตั้งบึงกาฬด้วย มีผู้ส่งหนังสือร้องเรียนไปตามที่ต่าง ๆ ว่าวางตัวไม่เป็นกลาง เอนเอียงช่วยเหลือผู้สมัครพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง และมีการส่งข้อความผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ
จากการตรวจสอบพบว่า ข้อความที่ร้องเรียนทั้งเป็นหนังสือ และข้อความในโทรศัพท์ตรงกัน จากหมายเลขโทรศัพท์เดียวกัน และเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของผู้กำกับการสถานีตำรวจรายหนึ่งในจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร และเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้งกันเองของตำรวจระดับผู้กำกับการสถานี ถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก
เบื้องต้นทราบว่า พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ จะแจ้งความต่อคู่กรณี เพราะมีหลักฐานทั้งหนังสือข่มขู่วางระเบิดที่มีก่อนการเลือกตั้ง อาจเป็นความขัดแย้งส่วนตัวแล้วนำมาโยงกับการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดการกลั่นแกล้งกันในที่สุด