จันทบุรี - ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจันทบุรี เชิญผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 และ เขต 3 จันทบุรีทำความเข้าใจในการหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใส่ร้ายป้ายสี เพื่อสร้างความสมานฉันท์ต่อกัน
วันนี้ (29 พ.ค.) เวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจันทบุรีฝ่ายสืบสวนสอบสวน นายเถลิง คามะคำ กกต.จังหวัดจันทบุรี พ.ต.ท.สมชีพ บรรเทาวงษ์ หัวหน้างานสืบสวน กกต.จังหวัดจันทบุรี ได้เป็นประธานในการเชิญผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี เขต 2 และ เขต 3 มาประชุมร่วมเพื่อสร้างความสมานฉันท์ ทำความเข้าใจในการหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใส่กันเพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิยุติธรรม
นายเถลิง คามะคำ กกต.จังหวัดจันทบุรี เผยว่า สำหรับการเชิญผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 2 เขต คือ เขต 2 และ เขต 3 มาประชุมร่วมกันในวันนี้เนื่องจาก ทั้ง 2 เขต นี้มีการแข่งขันกันสูงและมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพราะมีผู้สมัครสมาชิกสมาผู้แทนราษฎรหลายพรรคการเมืองลงชิงชัยกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และ กกต.จังหวัดจันทบุรีจึงต้องมีการเชิญผู้สมัคร ทั้ง 2 เขต มาทำความเข้าใจ เพื่อไม่เกิดปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงของการหาเสียงและการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขัดแย้งกัน นอกจากนี้ยังได้ฝากเตือนให้ผู้สมัครได้มีการหาเสียงที่อยู่ในกรอบของกฎหมายการเลือกตั้งที่กำหนดไว้ ไม่ควรที่จะมีการใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน หรือ การทำลายป้ายหาเสียง หรือ การปราศรัยโจมตีใส่กันซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งอีกด้วย
ส่วนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรีทั้ง เขต 2 และ เขต 3 ได้ฝากกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กกต.จังหวัดจันทบุรี ไว้ 5 ข้อด้วยกัน คือ 1.เรื่องของการพนันขันต่อในการเลือกตั้ง 2.เรื่องของป้ายหาเสียงที่ถูกทำลาย เช่น การใช้มีดกรีด หรือใช้สีพ่น และเผาป้าย 3.เรื่องการหาเสียงใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน 4.เรื่องความปลอดภัยของผู้สมัครรับการเลือกตั้ง สส. และ 5.เรื่องของการซื้อเสียงขายสิทธิ์ที่ในปัจจุบันเริ่มจะมีอำนาจเงินเข้ามาแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีได้มีการสั่งการให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งได้มีการจัดชุดสืบสวนสอบสวนจับตาการเล่นพนันขันต่อในช่วงของการเลือกตั้งไว้ทุกแห่งแล้ว หากพบว่ามีการเล่นการพนันก็จะมีการจับกุมทันที รวมทั้งการเผาป้าย ทำลายป้าย หรือ กรีดป้าหาเสียงต่างๆได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมมือดีเหล่านี้ไว้ทุกแห่งด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ได้ ส่วนเรื่องการใส่ร้ายป้ายสีใส่กันในเรื่องนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัด และ กกต.จังหวัดได้จัดชุดหาข่าวลงไปในพื้นที่อย่างเต็มทีหากพบว่ามีการพูดใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน และจับได้ก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย และอาจถอนสิทธิการเลือกตั้งผู้สมัครได้ทันที
ส่วนความปลอดภัยของผู้สมัคร ส.ส.นั้น ผู้สมัครสามารถที่จะเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยได้ทุกคนทุกพรรค และห้ามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยเด็ดขาด และเรื่องของการซื้อเสียงขายสิทธินั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดหาข่าวลงพื้นที่หากพบว่ามีการซื้อเสียงขายสิทธิจริงก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย
รวมทั้งหากพบว่า ผู้สมัครรายใดเกี่ยวพันกับการซื้อเสียงขายสิทธิก็อาจะถูกดำเนินคดีในข้อหาทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส.รายใดเห็น หรือ มีเบาะแสสามารถที่จะแจ้วมาที่ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และ กกต.จังหวัดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (29 พ.ค.) เวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจันทบุรีฝ่ายสืบสวนสอบสวน นายเถลิง คามะคำ กกต.จังหวัดจันทบุรี พ.ต.ท.สมชีพ บรรเทาวงษ์ หัวหน้างานสืบสวน กกต.จังหวัดจันทบุรี ได้เป็นประธานในการเชิญผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี เขต 2 และ เขต 3 มาประชุมร่วมเพื่อสร้างความสมานฉันท์ ทำความเข้าใจในการหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใส่กันเพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิยุติธรรม
นายเถลิง คามะคำ กกต.จังหวัดจันทบุรี เผยว่า สำหรับการเชิญผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 2 เขต คือ เขต 2 และ เขต 3 มาประชุมร่วมกันในวันนี้เนื่องจาก ทั้ง 2 เขต นี้มีการแข่งขันกันสูงและมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพราะมีผู้สมัครสมาชิกสมาผู้แทนราษฎรหลายพรรคการเมืองลงชิงชัยกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และ กกต.จังหวัดจันทบุรีจึงต้องมีการเชิญผู้สมัคร ทั้ง 2 เขต มาทำความเข้าใจ เพื่อไม่เกิดปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงของการหาเสียงและการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขัดแย้งกัน นอกจากนี้ยังได้ฝากเตือนให้ผู้สมัครได้มีการหาเสียงที่อยู่ในกรอบของกฎหมายการเลือกตั้งที่กำหนดไว้ ไม่ควรที่จะมีการใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน หรือ การทำลายป้ายหาเสียง หรือ การปราศรัยโจมตีใส่กันซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งอีกด้วย
ส่วนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรีทั้ง เขต 2 และ เขต 3 ได้ฝากกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กกต.จังหวัดจันทบุรี ไว้ 5 ข้อด้วยกัน คือ 1.เรื่องของการพนันขันต่อในการเลือกตั้ง 2.เรื่องของป้ายหาเสียงที่ถูกทำลาย เช่น การใช้มีดกรีด หรือใช้สีพ่น และเผาป้าย 3.เรื่องการหาเสียงใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน 4.เรื่องความปลอดภัยของผู้สมัครรับการเลือกตั้ง สส. และ 5.เรื่องของการซื้อเสียงขายสิทธิ์ที่ในปัจจุบันเริ่มจะมีอำนาจเงินเข้ามาแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีได้มีการสั่งการให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งได้มีการจัดชุดสืบสวนสอบสวนจับตาการเล่นพนันขันต่อในช่วงของการเลือกตั้งไว้ทุกแห่งแล้ว หากพบว่ามีการเล่นการพนันก็จะมีการจับกุมทันที รวมทั้งการเผาป้าย ทำลายป้าย หรือ กรีดป้าหาเสียงต่างๆได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมมือดีเหล่านี้ไว้ทุกแห่งด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ได้ ส่วนเรื่องการใส่ร้ายป้ายสีใส่กันในเรื่องนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัด และ กกต.จังหวัดได้จัดชุดหาข่าวลงไปในพื้นที่อย่างเต็มทีหากพบว่ามีการพูดใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน และจับได้ก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย และอาจถอนสิทธิการเลือกตั้งผู้สมัครได้ทันที
ส่วนความปลอดภัยของผู้สมัคร ส.ส.นั้น ผู้สมัครสามารถที่จะเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยได้ทุกคนทุกพรรค และห้ามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยเด็ดขาด และเรื่องของการซื้อเสียงขายสิทธินั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดหาข่าวลงพื้นที่หากพบว่ามีการซื้อเสียงขายสิทธิจริงก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย
รวมทั้งหากพบว่า ผู้สมัครรายใดเกี่ยวพันกับการซื้อเสียงขายสิทธิก็อาจะถูกดำเนินคดีในข้อหาทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส.รายใดเห็น หรือ มีเบาะแสสามารถที่จะแจ้วมาที่ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และ กกต.จังหวัดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
