ประจวบคีรีขันธ์ - “เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สาขาหัวหิน เข้าแจ้งความต่อตำรวจหัวหิน หลังตรวจสอบพบมีการนำโฉนดที่ดินของปลอม เนื้อที่รวมกว่า 50 ไร่ ในตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน มายื่นขอเอกสารสิทธิ์ ด้านที่ดิน เผย ราคาที่ดินในอำเภอหัวหินมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีกลุ่มมิจฉาฉีพทำโฉนดที่ดินของปลอมขึ้นมาเพื่ออ้างเอกสารสิทธิ์ในการซื้อขาย จึงต้องเพิ่มความเข้มงวด และระมัดระวังตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ทุกชิ้นเป็นพิเศษ”
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (24 พฤษภาคม 2554) นายนครินทร์ คีรีเพชร นักวิชาการที่ดินชำนาญการ พร้อมเจ้าหน้าที่ สำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร้อยตำรวจเอกมงคล มากขนอม พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังตรวจสอบพบมีการนำโฉนดที่ดินปลอมจำนวน 2 แปลง มายื่นต่อเจ้าพนักงานเพื่อทำการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ โดยโฉนดที่ดินใบแรกมีเนื้อที่ 12 ไร่ ,ใบที่สอง มีเนื้อที่ 39 ไร่เศษ ซึ่งที่ดินทั้งสองแปลงมีพื้นที่ติดกัน อยู่ในหมู่บ้านวังโบสถ์ ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน มีนายกี จันทร์หร่าย เป็นเจ้าของ
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดจนแน่ใจว่า โฉนดทั้ง 2 ฉบับ เป็นของปลอมอย่างแน่นอน เนื่องจากมีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งความหนาของกระดาษ การประทับตรา การลงลายเซ็นที่จะต้องมีการบันทึกด้วยปากกา การสลักหลังที่มีเนื้อหาต่างจากโฉนดของจริงที่สำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สาขาหัวหินจัดเก็บไว้ และขนาดของตัวอักษรบางแห่ง พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ที่ดินฯได้นำโฉนดที่ดินของปลอม และได้นำตัวนางอุบล คุ้มครอง อายุ 58 ปี พร้อมสามี อยู่บ้านเลขที่ 271 หมู่ 2 ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้ที่มายื่นเรื่องต่อพนักงานที่ดินฯหัวหิน มาสอบสวนที่ สภ.หัวหิน
จากการสอบปากคำนางอุบล เบื้องต้นให้การว่า ตนเป็นบุตรของ นายกี จันทร์หร่าย เจ้าของที่ดินทั้ง 2 แปลง โดยนายกี ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2553 ตนได้รับมอบหมายจากพี่น้องให้เป็นผู้จัดการมรดกของนายกี และได้รับมอบโฉนดที่ดินทั้งหมดมาจาก ภรรยาใหม่ของบิดา เพื่อนำมาเปลี่ยนชื่อเจ้าของที่ดินเป็นชื่อนางอุบล โดยไม่รู้ว่าเป็นของปลอมมาก่อน เพื่อยืนยันความบริสุทธิยินดีนำญาติพี่น้อง มาพร้อมหลักฐานเพื่อมาแสดงและยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันพรุ่งนี้
ด้านนายนครินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ที่ดินในอำเภอหัวหินมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีกลุ่มมิจฉาฉีพทำโฉนดที่ดินของปลอมขึ้นมาเพื่ออ้างเอกสารสิทธิ์ในการซื้อขาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวด และระมัดระวังตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ทุกชิ้นเป็นพิเศษ สำหรับโฉนดปลอมที่พบในครั้งนี้ ทั้งสองฉบับรวมพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 50 ไร่ หากนำไปขาย จะอยู่ที่ไร่ละ สี่แสนบาท หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า ยี่สิบล้านบาท สำหรับโฉนดปลอมนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง จะทำการสืบสวนสอบสวนหาต้นตอผู้กระทำความผิด รวมทั้งจะเป็นกรณีศึกษาให้ประชาชนระมัดระวังตนเองต่อไป