เชียงราย - “เสี่ยเล็ก” ควงลูกสาว “ชัญญา จงสุทธนามณี” สวมเสื้อ ภท.ลงชิงชัยเขต 2 เชียงรายแล้ว ขณะที่ 2 พี่น้องตระกูล “วันไชยธนวงศ์” เปิดศึกเพื่อไทย-ภูมิใจไทย เขต 4
วันนี้ (24 พ.ค.) หลังจากผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) คนสำคัญจากพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปสมัครรับเลือกตั้งในช่วงเช้ากันแล้ว ช่วงบ่าย น.ส.ชัญญา จงสุทธนามณี ลูกสาว นายมงคล จงสุทธนามณี แกนนำของพรรคภูมิใจในภาคเหนือได้เดินทางไปสมัครเขต 2 โดยมี นายมงคล และทีมงานตามไปส่งครบครัน แต่ นายธีรพงศ์ เผ่ากา ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเขต 3 ส.ต.ต.ชมชาติ กัมปะหะ ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเขต 7 รวมทั้งผู้สมัครทุกคนจากพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่เดินทางมาลงสมัคร
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สาเหตุที่บางคนไม่เดินทางไปสมัคร เนื่องจากยังคงรอท่าทีของพรรคภูมิใจ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยมักมีการปล่อยข่าวออกมาอยู่เนืองๆ เกี่ยวกับการจะไปลงสมัครในนามพรรคการเมืองหนึ่ง ขณะที่ตัวเองประกาศว่าจะสมัครในอีกพรรคการเมืองหนึ่ง แต่กรณีของบรรดาผู้พรรคประชาธิปัตย์มีรายงานว่า ได้มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หลายคน พากันลาออกจากตำแหน่งเพื่อจะไปสมัครพร้อมกันในวันที่ 26 พ.ค.54 ส่วนนายธีรพงษ์ และ ส.ต.ต.ชมชาติ อาจจะไปสมัครพร้อมกันในวันที่ 28 พ.ค.54 ต่อไป
ด้านสองพี่น้องตระกูล “วันไชยธนวงศ์” คือ นายรังสรรค์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ นายสุธีระพงศ์ หรือ “ส.จ.เล็ก” จากพรรคภูมิใจไทย ที่ต้องโคจรไปแข่งขันกันเองในเขตเลือกตั้งที่ 4 อ.เทิง อ.เวียงชัย อ.ป่าแดด ต่างถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้ นายสมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ เป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่หันไปอยู่กับขั้วพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น จึงได้พาลูกสองคน คือ นายสุธีระพงศ์-นางอทิติ วันไชยธนวงศ์ ลงสมัคร ส.ส.ระบบเขตแทนตัวเอง โดยนางอทิติ ไปลงสมัครเขต 5 และ นายสุธีระพงศ์ ลงเขต 4 ชนกับ นายรังสรรค์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายสมบูรณ์ ที่ปักหลักอยู่พรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม
นายรังสรรค์ กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่ทุกคนก็อยากจะเจริญก้าวหน้าทางการเมือง ดังนั้น กรณีของนายสุธีระพงศ์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันเขาก็ไปตามเส้นทางการเมืองเหมือนกับตน เมื่อเขตเลือกตั้งกำหนดให้เป็นเช่นนี้ทำให้เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องแข่งขันกันเอง แต่ตนยืนยันว่าแม้จะลงสมัครกันคนละพรรคแต่ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องเรายังคงเหมือนเดิมทุกประการ ส่วนการเลือกตั้งก็เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเอาเองว่าจะเลือกใคร
นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า วิถีทางการเมืองก็ให้เป็นไปตามวิถีทางการเมืองไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ต่อคนที่มีนามสกุลเดียวกัน
ด้าน นายสุธีระพงศ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่ต้องสมัครในเขตนี้ เพราะเดิมบิดาก็เคยเป็น ส.ส.เขตนี้มานานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะ อ.เทิง ส่วน อ.เวียงชัย ตนก็เคยเป็นสมาชิก อบจ.มา ขณะที่ อ.ป่าแดด เราต่างใหม่ในพื้นที่ทั้งคู่ แต่ยอมรับว่าเราต่างไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะต้องมาแข่งขันกันเองในเขตนี้ กระทั่ง กกต.ประกาศเขตเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น เมื่อได้มาแข่งขันกันเองก็คงจะเน้นเรื่องนโยบายและผลงานเป็นหลัก โดยคงจะไม่มีการใส่ร้ายป้ายสีกันแน่นอนเพราะทุกวันนี้ก็อยู่ชายคาเดียวกัน