เอเอฟพี - “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาว “นช.แม้ว” ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี วันนี้ (1) เรียกร้องกองทัพอย่าก่อรัฐประหารอีก หากเธอชนะการเลือกตั้ง และได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย
ในการให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ดิฉันไม่คิดว่าจะเกิดรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง ฉันหวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น แต่เราต้องการให้แน่ใจว่าทุกๆ ฝ่ายเคารพในการตัดสินใจของประชาชน”
“ประเทศไทยก้าวถอยหลังมาตลอด 4-5 ปี และประชาชนก็ต้องทุกข์ทรมานกันมานานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า” นักธุรกิจสาว และนักการเมืองหน้าใหม่ วัย 43 ปี ผู้เป็นน้องสาวแท้ๆ ของอดีตนายกฯ ทักษิณ กล่าว
เธอออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งผลสำรวจหลายสำนักชี้ว่า พรรคเพื่อไทยของเธอมีคะแนนนำอยู่อย่างสูสีกับพรรคประชาธิปัตย์ของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญการเมืองไทยจากต่างประเทศมองว่า พรรคเพื่อไทยไม่น่าจะได้เป็นรัฐบาล
“ไม่น่าจะเป็นไปอย่างยิ่ง ที่พรรคเพื่อไทยจะได้รับการยอมรับให้เป็นรัฐบาล” ไมเคิล มอนเตซาโน จากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์กล่าว โดยว่า “ตัวแทนของทักษิณ ซึ่งมาจากครอบครัวเดียวกัน ใช้นามสกุลเดียวกันยิ่งทำให้ความเป็นไปได้น้อยลง”
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์รายการเลทไลน์ ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลีย โดยยืนกรานว่าตัวเองไม่ทะเยอทะยานอยากกลับมาเป็นผู้นำประเทศไทยอีก พร้อมระบุว่า น้องสาวคนเล็กของเขาเป็นเสมือน “โคลน” ของเขา ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์เองก็ได้ย้ำถึงอุดมการณ์ทางการเมืองที่เหมือนกันอีกด้วย
“ฉันทำงานกับเขามาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นฉันจึงได้เรียนรู้วิธีการทำธุรกิจ ทั้งการวางตัวของเขา สไตล์ และวิธีคิดของเขา” เธอเสริม โดยชี้ว่าพรรคของเธอได้ประโยชน์จากแนวคิดทางการเมืองของพี่ชาย แต่ก็ยืนยันว่าเธอมีอิสระที่จะตัดสินใจด้วยตัวเธอเอง
ทั้งนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เมื่อวันอาทิตย์ (29 พ.ค.) ที่ผ่านมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำพรรคประชาธิปัตย์อยู่ 43% ต่อ 37% แต่โพลดังกล่าวชี้ว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจำนวนมากยังไม่ได้ตัดสินใจ และการเลือกตั้งก็ยังเหลือเวลามากกว่า 1 เดือน
ขณะที่ มอนเตซาโนเสริมว่า “ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือ กระแสยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์นั้นไม่ยั่งยืน”
“ทักษิณได้พิสูจน์ว่าเป็นอัจฉริยะทางการเมืองมาหลายครั้ง จึงชัดเจนว่าการแต่งตั้งยิ่งลักษณ์นั้นมีอะไรมากกว่าแค่เสนอตัวแทนที่มีนามสกุลเหมือนกัน” เขาสำทับ