พระนครศรีอยุธยา - ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เตรียมรับมือน้ำท่วม หลังฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 300 ลบ.ม./วินาที
นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในปีนี้ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาจจะถูกน้ำท่วมอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนมีมาก ซึ่งหลายจังหวัดเริ่มถูกน้ำท่วมแล้ว และแน่นอนว่า เมื่อมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเหนือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การระบายน้ำทั้งหมดจะต้องระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ที่ผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้นชาวบ้านริม 2 ฝั่งแม่น้ำ ก็จะถูกน้ำท่วมอีก
ล่าสุด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาของวันนี้ เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำท้ายเขื่อน อยู่ที่ 795 ลบ.ม./วินาที เทียบกับ 5 วันที่ผ่านมา ระบายน้ำเพิ่มขึ้นถึง 582 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 30 ซม.และหากปริมาณฝนยังตกมากอยู่เช่นนี้แน่นอนว่าจะทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มสูงถึง 1,800-2,200 ลบ.ม./วินาที ในอีกไม่ช้า ส่วนปริมาณน้ำที่ท่วมขังนาข้าวในหลายพื้นที่ ของ จ.พระนครศรีอยุธยา นี้ ได้ประสานไปยังโครงการส่งน้ำต่างๆ ให้จัดเจ้าหน้าที่ไปเปิดประตูระบายน้ำตามคลองต่างๆ เพื่อให้น้ำที่อยู่ในทุ่งลดลง และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา กรมชลประทานใกล้บ้านได้
ด้าน นางวิมล ไชยวัฒน์ ป้องกันและบรรเทาเสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งเตือนไปยังเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง ที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เพื่อแจ้งชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำรับทราบถึงสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจจะเพิ่มมากขึ้นไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน นี้ เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่น้ำจะท่วมบ้านเรือนประชาชนในปีนี้อีก โดยขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมตลอดเวลาด้วย
นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในปีนี้ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาจจะถูกน้ำท่วมอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนมีมาก ซึ่งหลายจังหวัดเริ่มถูกน้ำท่วมแล้ว และแน่นอนว่า เมื่อมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเหนือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การระบายน้ำทั้งหมดจะต้องระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ที่ผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้นชาวบ้านริม 2 ฝั่งแม่น้ำ ก็จะถูกน้ำท่วมอีก
ล่าสุด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาของวันนี้ เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำท้ายเขื่อน อยู่ที่ 795 ลบ.ม./วินาที เทียบกับ 5 วันที่ผ่านมา ระบายน้ำเพิ่มขึ้นถึง 582 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 30 ซม.และหากปริมาณฝนยังตกมากอยู่เช่นนี้แน่นอนว่าจะทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มสูงถึง 1,800-2,200 ลบ.ม./วินาที ในอีกไม่ช้า ส่วนปริมาณน้ำที่ท่วมขังนาข้าวในหลายพื้นที่ ของ จ.พระนครศรีอยุธยา นี้ ได้ประสานไปยังโครงการส่งน้ำต่างๆ ให้จัดเจ้าหน้าที่ไปเปิดประตูระบายน้ำตามคลองต่างๆ เพื่อให้น้ำที่อยู่ในทุ่งลดลง และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา กรมชลประทานใกล้บ้านได้
ด้าน นางวิมล ไชยวัฒน์ ป้องกันและบรรเทาเสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งเตือนไปยังเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง ที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เพื่อแจ้งชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำรับทราบถึงสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจจะเพิ่มมากขึ้นไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน นี้ เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่น้ำจะท่วมบ้านเรือนประชาชนในปีนี้อีก โดยขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมตลอดเวลาด้วย