พิจิตร - แม่ค้าโจ๊กพิจิตรด่าลั่นโครงการเรียนฟรีตอแหล โวยเปิดเทอมวันแรกโรงเรียนเรียกเก็บ 1,500 บาท เป็นค่าครูสอนภาษา ตปท.-ค่าบำรุงคอมพ์ แถมบอกให้จ่ายภายใน 24 พ.ค.นี้
นางสมพร อยู่แก้ว หรือ “เจี๊ยบขายโจ๊ก” อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/7 ถนนบุษบา อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นแม่ค้าขายโจ๊กอยู่ที่บริเวณสี่แยกถนนบึงสีไฟ ร้องทุกข์ต่อผู้สื่อข่าวว่า แค่เปิดเรียนวันแรกก็มีความทุกข์ใหญ่หลวง เนื่องจากเป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำมีลูก 2 คน คนโตเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย ส่วนคนที่ 2 เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในโครงการเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาล
ปรากฏว่าลูกไปโรงเรียนวันแรกกลับมาตอนเย็นบอกว่า ครูสั่งมาว่าในวันอังคารที่ 24 พ.ค. 2554 ให้ผู้ปกครองนำเงินจำนวน 1,500 บาท ไปจ่ายเป็นค่าครูสอนภาษาต่างประเทศ 1,000 บาท ค่าบำรุงห้องคอมพิวเตอร์ 500 บาท ซึ่งนักเรียนทั้งโรงเรียนมีประมาณ 2,400 คน ถ้าเก็บเช่นนี้โรงเรียนก็จะได้เงินจำนวนมหาศาลถึง 3.6 ล้านบาท
การเรียกเก็บเงินดังกล่าวเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ปกครอง ดังนั้นจึงขอร้องเรียนถึงพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบถึงความถูกต้องด้วยว่าโครงการเรียนฟรี แท้จริงแล้วมีจริงหรือเปล่า โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตรที่กำลังถูกผู้บริหารสถานศึกษาสูบเลือดสูบเนื้ออยู่ในขณะนี้
นางสมพรกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทุกวันนี้ค้าขายก็กำไรน้อยเพราะข้าวของขึ้นราคาแทบทุกอย่าง แต่ก็ต้องขายสินค้าในราคาเดิม ถึงมีลูกแค่ 2 คน ก็หารายได้ใช้แบบวันต่อวัน เปิดเทอมครั้งหนึ่งๆ คนโตเรียนมหาวิทยาลัย คนเล็กเรียนมัธยม ค่าใช้จ่ายก็เป็นหลักหมื่นบาท หวังโครงการเรียนฟรีจะช่วยลูกคนเล็กที่เรียนระดับมัธยม แต่ไม่ทราบเหตุผลใดผู้บริหารโรงเรียนพิจิตรพิทยาคมก็มักอ้างชมรมผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่ามาเรียกเก็บเงินทุกปี ทั้งๆ ที่รัฐบาลจากส่วนกลางก็อุดหนุนงบประมาณมาให้แล้ว คอมพิวเตอร์ก็มีอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะเรียกเก็บอีก แถมบังคับกำหนดเงื่อนเวลาต้องให้จ่ายภายในวันอังคารที่ 24 พ.ค. 2554 เป็นก้อนเดียว ซึ่งมันหนักไป น่าจะลดราคาลงต่ำกว่านี้หรือให้ผ่อนเป็นรายงวดก็ยังพอรับไหว
“ตอนนี้กำลังเลือดเข้าตาและคิดว่าอาจจะต้องเข้าบ่วงเวรกรรม คือ หันไปกู้เงินกู้รายวันจากแก๊งหมวกกันน็อคดอกเบี้ยโหดก็คงต้องยอม ทั้งหมดนี้เหตุเป็นเพราะโรงเรียนพิจิตรพิทยาคม บีบคั้นผู้ปกครองและโครงการเรียนฟรีของรัฐบาลช่วยชาวบ้านได้ไม่จริง เป็นโครงการตอแหลกระนั้นหรือ” แม่ค้าโจ๊กพิจิตร กล่าว