พิษณุโลก - เปิดใจ 1 ใน 50 มือปืนในบัญชี สตช.รับติดทำเนียบรับงานเก็บหัวละแสน-ล้าน ในระดับ ส.ส.-บิ๊กข้าราชการ แต่ยืนยันวันนี้ วางมือแล้ว ระบุ ขณะนี้เหลือมือปืนตามบัญชีทำงานเพียง 20 คน แต่พื้นที่ภาคเหนือตอนล่างยังมีซุ้มที่เพชรบูรณ์
หลังกระแสเลือกตั้งทวีความเข้มข้น ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดบัญชีมือปืนตามหมายจับใน 50 ราย ล่าสุด วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามเรื่องราวชีวิตจริงมือปืนคนหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 50 คนตามบัญชีดำที่ สตช.ออกหมายจับ และมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก
ผู้มีชื่อติด 1 ใน 50 มือปืนของ สตช.รายนี้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แวดวงซุ้มมือปืนช่วงเลือกตั้งปีนี้ เท่าที่ดูยังมีผู้รับงาน 20 รายจากในบัญชี 50 ของ สตช.ส่วนที่เหลือวางมือ ไม่ได้รับงานแล้ว สำหรับตนเป็นมือปืนติดบัญชีรายชื่อ 1 ใน 50 เพราะคดีเก่า ที่ทำเพราะความจำเป็นทางครอบครัวในอดีต และมีเรื่องการกลั่นแกล้ง ถูกนายทุนเอารัดเอาเปรียบ ทำนาข้าวถูกโกงหมดหนทาง ไม่เหลือข้าวให้ลูกกิน กฎหมายพึ่งไม่ได้ จึงตัดสินใจทำ กลายเป็นมือปืนรับจ้าง ยอมติดคุก ยอมตายข้างหน้า
เขาบอกว่า ช่วงเตรียมเลือกตั้ง ซุ้มมือปืนยังเงียบอยู่เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ มีแต่ติดต่อถามไถ่ เรื่องการรับงานอยู่บ้าง หรืออาจจะยังไม่ถึงวันเลือกตั้งก็เป็นได้
“ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอาชีพมือปืนรับจ้างเฟื่อง ค่อนข้างดี มีงานทำมาก แต่หลังยุคทักษิณ เป็นนายกฯหลายคนเลิกอาชีพการเป็นมือปืน”
เขาบอกอีกว่า มือปืนตามซุ้มต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นตำรวจ, ทหาร, ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน ซึงวิธีการนั้น บอกได้เพียงว่า รับงานจากผู้ติดต่อมาเป็นทอดๆ ว่า มีงานฆ่าใคร จากนั้นก็ตกลงเรื่องเงิน ทั่วๆไป คิดอัตราค่าจ้างหลักแสนบาท ถึงหลักล้านบาท สำหรับระดับบิ๊กข้าราชการ หรือ ส.ส. จะวางเงินก่อนลงมือ 50%
ส่วนจะใช้ปืนขนาดใดนั้น ผู้ว่าจ้างจะจัดหาปืนมาให้ครั้งละ 2 กระบอกเป็นอย่างต่ำ เพื่อป้องกันการผิดพลาด
หลังจากงานเสร็จจ่ายส่วนที่เหลือ บางคนพลาดก็ยอมยิงตัวตาย หรือไม่ก็ติดคุก 4-5 ปีก็ออกมาหรือ10 ปีขึ้นไป บางคนออกจากคุกก็วางมือเลิกเป็นมือปืน บางคนก็ส่งงานต่อให้มือปืนเด็กรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่อายุ 20-45 ปี ส่วนที่อายุ 50-60 ปีวางมือแล้ว
มือปืนรายนี้ ยังบอกอีกว่า คนรุ่นใหม่รับงานง่าย ลงมือโฉ่งฉ่าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ติดยาเสพติด กลุ่มยาบ้าที่ผันตัวมาเป็นมือปืน รับงานฆ่าเพื่อหาเงินซื้อยา กลุ่มมือปืนพวกนี้ไม่คิดอะไรมาก ใจถึง งานช่วงนี้ที่รับๆกันอยู่ คือ งานเก็บกลุ่มข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ส่วนนักการเมืองไม่ค่อยมี
“การลงมือสำหรับนักการเมืองใหญ่ๆ มือปืนจะต้องวางแผนเป็นปี หรืออย่างน้อยต้อง 3-4 เดือน บางรายต้องวางแผนเข้ามาสัมผัสชีวิตก่อนลงมือฆ่า ดูทางหนีที่ไล่ จังหวะเวลา ทำงานต้องไม่ทิ้งหลักฐาน เพราะมือปืนอาชีพ ตำรวจแทบตามจับไม่ได้”
หลักการคือ ทำงานคนเดียว ไม่ทำงานเป็นทีม แต่มือปืนรุ่นใหม่มักใจร้อน พวกนี้จะเป็นทหาร ตำรวจ ความแม่นยำในการทำงานต่างกัน สำหรับกลุ่มมือปืนรุ่นเก่า มักผ่านศึกสงครามมรภูมิเวียดนามและการสู้รบที่ลาว กลุ่มนี้ใจเย็นทำงานไตร่ตรองอย่างดี ไม่มีผิดพลาด บางคนรับงานฆ่ามาแล้ว 30 ครั้ง
ต่อข้อซักถามที่ว่า ซุ้มมือปืนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างมีหรือไม่ เขาบอกว่า มีเป็นซุ้มที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทว่าแต่ละจังหวัดก็มีมือปืนรับจ้างอยู่เกือบทุกจังหวัดๆละ 1-2 คน แต่มือปืนส่วนใหญ่จะรับงานข้ามถิ่น คือ ถ้าซุ้มมือปืนภาคเหนือจะไปงานทางภาคอีสาน, ภาคใต้
ยืนยันว่า จะไม่รับงานฆ่าคนจังหวัดเดียวกันหรือจังหวัดใกล้เคียง
สำหรับงานฆ่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง มือปืนที่จะเข้ามาทำงานส่วนใหญ่มาจากซุ้มนครปฐม, ราชบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบูรณ์
เขาบอกว่า มือปืนเป็นอาชีพที่เสี่ยง ทำงานแบบชีวิตแลกชีวิต การทำงานต้องมีสัจจะ ก่อนทำงานต้องศึกษาก่อนว่าจะรับงานได้หรือไม่ได้ ต้องมีจริยธรรม มีสัจจะ ยอมรับว่าการฆ่าคนตาย มีเรื่องของกงกรรมกงเกวียน หลังทำงานบางคนจะไถ่บาปด้วยการบวชเป็นพระ บางคนติดคุก หลังจากออกจากคุกก็กลับตัวเป็นคนดี บางคนเป็นผู้นำท้องถิ่นก็กลับมาสอนลูกหลานอย่าเข้าไปวงจรมือปืน เพราะมันเป็นแบบกงกรรมกงเกวียน เก็บกันไปมา ระหว่างมือปืนด้วยกันก็มี
อนึ่ง มือปืนผู้ให้วิทยาทานรายนี้กล่าวทิ้งท้ายกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเลิกอาชีพมือปืนมาแล้ว 10 ปี หลังจากเริ่มต้นอาชีพมือปืนตั้งแต่อายุ 16 ปี เลิกอาชีพเมื่ออายุ 38 ปี อดีตเคยถูกจับและติดคุกมาแล้วร่วม 10 ปี ปัจจุบันอยู่ใกล้วัยเกษียณ ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ พอดีมาเห็นรายชื่อที่ยังติดอยู่ในบัญชี 50 รายชื่อมือปืนที่ตำรวจต้องการ เชื่อว่า มีชื่อตามประวัติเก่าเคยเป็นมือปืนมาก่อน ก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะมั่นใจว่าได้วางมือไปแล้ว
หลังกระแสเลือกตั้งทวีความเข้มข้น ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดบัญชีมือปืนตามหมายจับใน 50 ราย ล่าสุด วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามเรื่องราวชีวิตจริงมือปืนคนหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 50 คนตามบัญชีดำที่ สตช.ออกหมายจับ และมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก
ผู้มีชื่อติด 1 ใน 50 มือปืนของ สตช.รายนี้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แวดวงซุ้มมือปืนช่วงเลือกตั้งปีนี้ เท่าที่ดูยังมีผู้รับงาน 20 รายจากในบัญชี 50 ของ สตช.ส่วนที่เหลือวางมือ ไม่ได้รับงานแล้ว สำหรับตนเป็นมือปืนติดบัญชีรายชื่อ 1 ใน 50 เพราะคดีเก่า ที่ทำเพราะความจำเป็นทางครอบครัวในอดีต และมีเรื่องการกลั่นแกล้ง ถูกนายทุนเอารัดเอาเปรียบ ทำนาข้าวถูกโกงหมดหนทาง ไม่เหลือข้าวให้ลูกกิน กฎหมายพึ่งไม่ได้ จึงตัดสินใจทำ กลายเป็นมือปืนรับจ้าง ยอมติดคุก ยอมตายข้างหน้า
เขาบอกว่า ช่วงเตรียมเลือกตั้ง ซุ้มมือปืนยังเงียบอยู่เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ มีแต่ติดต่อถามไถ่ เรื่องการรับงานอยู่บ้าง หรืออาจจะยังไม่ถึงวันเลือกตั้งก็เป็นได้
“ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอาชีพมือปืนรับจ้างเฟื่อง ค่อนข้างดี มีงานทำมาก แต่หลังยุคทักษิณ เป็นนายกฯหลายคนเลิกอาชีพการเป็นมือปืน”
เขาบอกอีกว่า มือปืนตามซุ้มต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นตำรวจ, ทหาร, ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน ซึงวิธีการนั้น บอกได้เพียงว่า รับงานจากผู้ติดต่อมาเป็นทอดๆ ว่า มีงานฆ่าใคร จากนั้นก็ตกลงเรื่องเงิน ทั่วๆไป คิดอัตราค่าจ้างหลักแสนบาท ถึงหลักล้านบาท สำหรับระดับบิ๊กข้าราชการ หรือ ส.ส. จะวางเงินก่อนลงมือ 50%
ส่วนจะใช้ปืนขนาดใดนั้น ผู้ว่าจ้างจะจัดหาปืนมาให้ครั้งละ 2 กระบอกเป็นอย่างต่ำ เพื่อป้องกันการผิดพลาด
หลังจากงานเสร็จจ่ายส่วนที่เหลือ บางคนพลาดก็ยอมยิงตัวตาย หรือไม่ก็ติดคุก 4-5 ปีก็ออกมาหรือ10 ปีขึ้นไป บางคนออกจากคุกก็วางมือเลิกเป็นมือปืน บางคนก็ส่งงานต่อให้มือปืนเด็กรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่อายุ 20-45 ปี ส่วนที่อายุ 50-60 ปีวางมือแล้ว
มือปืนรายนี้ ยังบอกอีกว่า คนรุ่นใหม่รับงานง่าย ลงมือโฉ่งฉ่าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ติดยาเสพติด กลุ่มยาบ้าที่ผันตัวมาเป็นมือปืน รับงานฆ่าเพื่อหาเงินซื้อยา กลุ่มมือปืนพวกนี้ไม่คิดอะไรมาก ใจถึง งานช่วงนี้ที่รับๆกันอยู่ คือ งานเก็บกลุ่มข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ส่วนนักการเมืองไม่ค่อยมี
“การลงมือสำหรับนักการเมืองใหญ่ๆ มือปืนจะต้องวางแผนเป็นปี หรืออย่างน้อยต้อง 3-4 เดือน บางรายต้องวางแผนเข้ามาสัมผัสชีวิตก่อนลงมือฆ่า ดูทางหนีที่ไล่ จังหวะเวลา ทำงานต้องไม่ทิ้งหลักฐาน เพราะมือปืนอาชีพ ตำรวจแทบตามจับไม่ได้”
หลักการคือ ทำงานคนเดียว ไม่ทำงานเป็นทีม แต่มือปืนรุ่นใหม่มักใจร้อน พวกนี้จะเป็นทหาร ตำรวจ ความแม่นยำในการทำงานต่างกัน สำหรับกลุ่มมือปืนรุ่นเก่า มักผ่านศึกสงครามมรภูมิเวียดนามและการสู้รบที่ลาว กลุ่มนี้ใจเย็นทำงานไตร่ตรองอย่างดี ไม่มีผิดพลาด บางคนรับงานฆ่ามาแล้ว 30 ครั้ง
ต่อข้อซักถามที่ว่า ซุ้มมือปืนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างมีหรือไม่ เขาบอกว่า มีเป็นซุ้มที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทว่าแต่ละจังหวัดก็มีมือปืนรับจ้างอยู่เกือบทุกจังหวัดๆละ 1-2 คน แต่มือปืนส่วนใหญ่จะรับงานข้ามถิ่น คือ ถ้าซุ้มมือปืนภาคเหนือจะไปงานทางภาคอีสาน, ภาคใต้
ยืนยันว่า จะไม่รับงานฆ่าคนจังหวัดเดียวกันหรือจังหวัดใกล้เคียง
สำหรับงานฆ่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง มือปืนที่จะเข้ามาทำงานส่วนใหญ่มาจากซุ้มนครปฐม, ราชบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบูรณ์
เขาบอกว่า มือปืนเป็นอาชีพที่เสี่ยง ทำงานแบบชีวิตแลกชีวิต การทำงานต้องมีสัจจะ ก่อนทำงานต้องศึกษาก่อนว่าจะรับงานได้หรือไม่ได้ ต้องมีจริยธรรม มีสัจจะ ยอมรับว่าการฆ่าคนตาย มีเรื่องของกงกรรมกงเกวียน หลังทำงานบางคนจะไถ่บาปด้วยการบวชเป็นพระ บางคนติดคุก หลังจากออกจากคุกก็กลับตัวเป็นคนดี บางคนเป็นผู้นำท้องถิ่นก็กลับมาสอนลูกหลานอย่าเข้าไปวงจรมือปืน เพราะมันเป็นแบบกงกรรมกงเกวียน เก็บกันไปมา ระหว่างมือปืนด้วยกันก็มี
อนึ่ง มือปืนผู้ให้วิทยาทานรายนี้กล่าวทิ้งท้ายกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเลิกอาชีพมือปืนมาแล้ว 10 ปี หลังจากเริ่มต้นอาชีพมือปืนตั้งแต่อายุ 16 ปี เลิกอาชีพเมื่ออายุ 38 ปี อดีตเคยถูกจับและติดคุกมาแล้วร่วม 10 ปี ปัจจุบันอยู่ใกล้วัยเกษียณ ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ พอดีมาเห็นรายชื่อที่ยังติดอยู่ในบัญชี 50 รายชื่อมือปืนที่ตำรวจต้องการ เชื่อว่า มีชื่อตามประวัติเก่าเคยเป็นมือปืนมาก่อน ก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะมั่นใจว่าได้วางมือไปแล้ว