ศูนย์ข่าวศรีราชา - สม.พัทยา แฉผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดเมืองพัทยา หากินพิสดาร ตั้งเตียงกั้นคอกเปิดเป็นห้องพักชั่วคราวริมหาดให้สาวประเภทสองใช้เป็นพื้นที่ค้าประเวณี
วันนี้ (12 พ.ค. 54) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดเมืองพัทยาและจอมเทียน กว่า 300 ราย เพื่อทำการหารือเกี่ยวกับปัญหาการทำกิน เนื่องจากปัจจุบันได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีการประกอบการผิดจากระเบียบข้อบังคับตามกฎหมายและประกาศของเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ผ่านมาผู้บริหารเมืองพัทยาไม่ได้ลงไปกำกับควบคุมดูแลเกี่ยวกับผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดมากนัก เนื่องจากปล่อยให้มีการทำกินไปตามสภาพ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการร้องเรียนเข้ามามากมายเกี่ยวกับการทำกินของผู้ประกอบการที่มักชอบประพฤติตนนอกกรอบจนสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ ทั้งเรื่องของการกางร่มเตียงเกินพื้นที่ที่กำหนด การไม่เว้นหรือเปิดช่องทางเดินลงชายหาด การจัดตั้งสิ่งของอุปกรณ์ทำกินที่ไม่เหมาะสม และขับยานพาหนะในพื้นที่ทางเท้าสาธารณะ
นายรณกิจ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังได้รับรับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่แจ้งว่ามีการขับไล่นักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ชายหาด เนื่องจากไม่เข้ามาใช้บริการร่มเตียงที่เปิดให้บริการ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเนื่องจากชายหาดเป็นมรดกโลกที่เป็นที่สาธารณะ ที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น จากนี้ต่อไปเจ้าหน้าที่จะมีการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดและหากมีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเมืองพัทยาก็จะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด
ขณะที่นายสนิท บุญมาฉาย สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวว่า ตามพื้นที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นพบว่าไม่มีใครที่ต้องการให้มีการจัดตั้งเตียงบริเวณชายหาด เนื่องจากเป็นการบดบังสภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม แต่สำหรับเมืองพัทยานั้นพบว่าประชาชนทำกินมาก่อนเป็นเวลานานจึงเห็นควรให้ทำกินได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบที่กำหนด ซึ่งก็คงต้องให้ความเคารพและปฏิบัติตามกติกาของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาเรื่องความไม่เป็นระเบียบที่เกิดขึ้นแล้ว ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายใช้วิธีหากินที่ไม่เหมาะสม โดยในช่วงหลังปิดกิจการก็ได้นำเตียงมาปิดกั้นล้อมเป็นคอกเพื่อเปิดช่องพื้นที่ตรงกลางไว้ประมาณ 4 ตารางเมตร เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มสาวประเภทสองหรือหญิงสาวที่จ่ายเงินให้ทำการเชิญชวนนัก ท่องเที่ยวมาค้าประเวณีในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
นอกจากนี้ ยังมีการจับกลุ่มเล่นพนันเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เสียหายอย่างรุนแรง จึงอยากวอนให้เลิกการกระทำดังกล่าวเพราะถือเป็นความเสียหายของบ้านเมือง และหากตรวจสอบพบหรือจับกุมได้ก็จะทำการลงโทษตามข้อบังคับอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้ประกอบการรายอื่นต่อไป
วันนี้ (12 พ.ค. 54) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดเมืองพัทยาและจอมเทียน กว่า 300 ราย เพื่อทำการหารือเกี่ยวกับปัญหาการทำกิน เนื่องจากปัจจุบันได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีการประกอบการผิดจากระเบียบข้อบังคับตามกฎหมายและประกาศของเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ผ่านมาผู้บริหารเมืองพัทยาไม่ได้ลงไปกำกับควบคุมดูแลเกี่ยวกับผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดมากนัก เนื่องจากปล่อยให้มีการทำกินไปตามสภาพ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการร้องเรียนเข้ามามากมายเกี่ยวกับการทำกินของผู้ประกอบการที่มักชอบประพฤติตนนอกกรอบจนสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ ทั้งเรื่องของการกางร่มเตียงเกินพื้นที่ที่กำหนด การไม่เว้นหรือเปิดช่องทางเดินลงชายหาด การจัดตั้งสิ่งของอุปกรณ์ทำกินที่ไม่เหมาะสม และขับยานพาหนะในพื้นที่ทางเท้าสาธารณะ
นายรณกิจ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังได้รับรับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่แจ้งว่ามีการขับไล่นักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ชายหาด เนื่องจากไม่เข้ามาใช้บริการร่มเตียงที่เปิดให้บริการ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเนื่องจากชายหาดเป็นมรดกโลกที่เป็นที่สาธารณะ ที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น จากนี้ต่อไปเจ้าหน้าที่จะมีการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดและหากมีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเมืองพัทยาก็จะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด
ขณะที่นายสนิท บุญมาฉาย สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวว่า ตามพื้นที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นพบว่าไม่มีใครที่ต้องการให้มีการจัดตั้งเตียงบริเวณชายหาด เนื่องจากเป็นการบดบังสภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม แต่สำหรับเมืองพัทยานั้นพบว่าประชาชนทำกินมาก่อนเป็นเวลานานจึงเห็นควรให้ทำกินได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบที่กำหนด ซึ่งก็คงต้องให้ความเคารพและปฏิบัติตามกติกาของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาเรื่องความไม่เป็นระเบียบที่เกิดขึ้นแล้ว ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายใช้วิธีหากินที่ไม่เหมาะสม โดยในช่วงหลังปิดกิจการก็ได้นำเตียงมาปิดกั้นล้อมเป็นคอกเพื่อเปิดช่องพื้นที่ตรงกลางไว้ประมาณ 4 ตารางเมตร เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มสาวประเภทสองหรือหญิงสาวที่จ่ายเงินให้ทำการเชิญชวนนัก ท่องเที่ยวมาค้าประเวณีในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
นอกจากนี้ ยังมีการจับกลุ่มเล่นพนันเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เสียหายอย่างรุนแรง จึงอยากวอนให้เลิกการกระทำดังกล่าวเพราะถือเป็นความเสียหายของบ้านเมือง และหากตรวจสอบพบหรือจับกุมได้ก็จะทำการลงโทษตามข้อบังคับอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้ประกอบการรายอื่นต่อไป