พิษณุโลก - แม่ค้าสาววัย 39 ปี ชาวเมืองสองแคว รับเป็น “เรยา” ขรก.พิษณุโลกคนหนึ่ง จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน แต่เลิกรากันแล้วกลับถูกขู่อาฆาต แถมส่ง SMS อยาก...! ลูกสาวในไส้
วันนี้ (11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แต๋ว (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ชาวเมืองพิษณุโลก ได้ติดต่อนักข่าวในจังหวัด หลังปรากฏข่าวเด็กชายส่ง sms ถึงเด็กหญิง เผยแพร่ โดยบอกว่า ตนมีอาชีพค้าขายมานาน 9 ปีที่ผ่านมา ตนได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง มีอาชีพรับราชการอยู่ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และอยู่กินกันแบบสามีภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะทราบว่าเขาก็มีภรรยารับราชการเช่นกัน กระทั่งมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันลูกสาวอายุ 9 ปี ส่วนสามีไปๆ มาๆ ตามแต่สะดวก ซึ่งตนก็ไม่ได้ไปรบกวนครอบครัวสามี โดยตั้งใจเลี้ยงลูกเรื่อยมา
น.ส.แต๋ว บอกอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนทราบว่า สามีตนหย่าร้างกับเมียหลวงเรียบร้อยแล้ว ตนจึงได้ขอให้สามีไปตรวจ DNA เพื่อจะให้รับรองบุตรสาว เพื่อขอใช้สิทธิ์ในการเบิกค่าใช้จ่าย ทว่าครอบครัวเมียหลวงของสามีตน กลับเริ่มโทรศัพท์มาต่อว่าตน พร้อมข่มขู่หลายครั้ง ตนจึงตัดสินใจไปหาผู้บังคับบัญชาของสามี พร้อมกับบอกเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง เพื่อให้ทางสามีและภรรยาหลวงอย่ามายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของตนอีก
แต่ทางเมียหลวงกลับไม่ยอมหยุดคุกคามตนและครอบครัว นอกจากนั้น สามีตนยังมาต่อว่าตนถึงที่บ้าน และตามไปที่ร้านขายของ และตบหน้าทำร้ายร่างกายตน ในที่สุดตนต้องเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ทำให้สามีไม่พอใจอย่างมาก ส่งข้อความคุกคามมาหาตนและลูกสาวตลอด
นางแต๋ว บอกอีกว่า ตนไม่เคยคิดแม้แต่น้อย ว่า สามี ซึ่งมีหน้าที่การงานเป็นถึงข้าราชการ ความรู้ดี แต่ในจิตใจกลับตรงกันข้าม แม้เลิกกับตนไปแล้ว ได้ส่งข้อความมาข่มขู่ เช่น “ระวังตัวไว้ให้ดี อย่าให้เจอมึง...ตาย” หรือ “มึงกับกูเจอกันไม่ใครก็ใครจะต้องเป็นศพ” ทำให้ตนและลูกเกิดความกลัว จึงได้ร้องเรียนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง จนทำให้สามีถูกลงโทษ และเป็นสาเหตุให้สามีโกรธตนกับลูกสาวอย่างมาก จนอาฆาตตนกับลูกสาวเอาไว้ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา 9 ปี ตนเชื่อในนิสัยใจคอของเขา ว่าเป็นคนอย่างไร จึงต้องระมัดระวังและคอยดูแลลูกสาวตลอดเวลา
เธอระบุว่า สิ่งที่ตนรับไม่ได้ ก็คือ สามีได้ส่งข้อความมาข่มขู่ตนและลูกสาว โดยส่งข้อความถึงลูกสาวตนเอง มีข้อความลักษณะเหมือนคนที่ไม่ใช่ลูกสาวตนเอง คือ “อยาก.....ลูกว่ะ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับคนที่เป็นพ่อของลูกสาว ตอนแรกลูกสาวเอามาให้อ่าน ตนได้ลบข้อความทิ้งไปบ้างแล้ว เพราะไม่อยากให้ลูกเอามาคิด และด้วยความโมโห ตนจึงตามไปหาอดีตสามี สอบถามอดีตสามีรับว่าเป็นคนส่งข้อความเอง
“วันนี้ต้องระวังตัวตลอดเวลา ไม่ไปขายของต่างจังหวัด จะกลับบ้านเร็ว หากมีอะไรแปลกจะบอกกับเพื่อนบ้านเอาไว้ ส่วนลูกสาวจะเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ และไม่ปล่อยให้ไปเที่ยวกับใคร นอกจากคนในบ้าน เพราะรู้ดีว่าสามีเป็นคนคิดแล้ว ทำจริง จึงวอนผู้ที่คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ไม่ใช่จะโทษเด็กเพียงฝ่ายเดียว อยากจะให้มองผู้ใหญ่ก็มีส่วนอยู่มาก ที่สร้างปัญหาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของเด็กมาก่อน” น.ส.แต๋ว บอก
