ศูนย์ข่าวศรีราชา - เทศกาลผลไม้ระยอง-จันท์ ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ 2 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ททท.เขต 4 คาด ช่วงหยุดยาว 13-17 พฤษภาคมนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาและเลือกซื้อผลไม้ใน 2 จังหวัดกว่า 2 แสนคนและจะมีเงินสะพัดเกือบ 500 ล้านบาท
นายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ระยอง-จันทบุรี) ได้เผยถึงตัวเลขประมาณการจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการ ท่องเที่ยวที่จะมีขึ้นระหว่างช่วงวันหยุด 13-17 พฤษภาคมนี้ ในพื้นที่จังหวัดระยองและจันทบุรี ว่า น่าจะมีรายได้รวมกันเกือบ 500 ล้านบาท
จากปัจจับบวกในเรื่องเทศกาลผลไม้ ซึ่งขณะนี้จังหวัดระยอง และจันทบุรี มีผลไม้ซึ่งถือเป็นชื่อเสียงของจังหวัดออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังสวนผลไม้ต่างๆ รวมทั้งหาซื้อผลไม้จากตลาดผลไม้ และท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤษภาคมนี้ จังหวัดระยอง ยังร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในพื้นที่ จัดงาน “เทศกาลผลไม้และของดีเมืองระยอง” ประจำปี 2554 ที่ บริเวณตลาดกลางผลไม้ตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพผลไม้ให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังเป็นการเผยแพร่ผลผลิตทางการเกษตร การประมงและของดีอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของอำเภอเมืองระยองให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ซึ่งก็คาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในจังหวัดระยองเป็นจำนวนมาก
สำหรับไฮไลต์สำคัญของงาน นอกจากจะอยู่ที่การเปิดตลาดผลไม้สดจากสวนให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อผลไม้ของดีเมืองระยองในราคาถูกแล้ว ในวันที่ 13 พฤษภาคม ยังมีการโชว์รถประดับตกแต่งผลไม้จาก 11 ตำบล และกิจกรรมนาทีทองจำหน่ายผลไม้ราคาถูก รวมทั้งการแข่งขันกินผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดระยอง และการประกวดธิดาชาวสวนเมืองระยอง
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า จำนวนห้องพักที่มีประมาณ 10,803 ห้อง จากจำนวนผู้ประกอบการในจังหวัดระยอง 274 แห่ง จะมียอดจองประมาณร้อยละ 70 และจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดไม่น้อยกว่า 2 แสนคน ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากการเข้าพักและการจับจ่ายในช่วง 5 วัน ที่ประมาณ 379.48 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีในช่วงวันหยุด 13-17 พฤษภาคมนี้ คาดว่าจะมีการสำรองห้องพักร้อยละ 80 ของจำนวนห้องพัก 3,063 ห้อง จากสถานที่พักแรม 109 แห่ง โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเกือบ 7 หมื่นคน ส่วนรายได้ที่จะเกิดจากการท่องเที่ยวน่าจะอยู่ที่ประมาณ 112.84 ล้านบาท