ศูนย์ข่าวศรีราชา- 9 มือปราบด้านยาเสพติดอำเภอสัตหีบ พร้อมใจบวชชำระบาป อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร หลังร่วมการจับกุมผู้กระทำความผิด ก่อให้เกิดการพลัดพราก สาปแช่ง ก่นด่า กักขัง และพันธนาการ โดยมีชาวบ้านร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้
วันนี้ (5 พ.ค.) นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ เป็นประธานในการจัดงานอุปสมบทหมู่ โดยมี นาวาเอก วิรัตน์ สมจิตร ผู้บังคับการกรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ (ผบ.กสพ.ฐท.สส.), เรือเอก พัชรพล ปานรักษ์ ประจำทัพเรือภาคที่ 1, นางสาวรัดใจ บันดิษฐ์ศิลป์ กำนันตำบลสัตหีบ เป็นเจ้าภาพร่วมในการอุปสมบทให้กับ นายยอดชาย ถนอมสิงห์ อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ, นายวันชัย ณ วันดี อายุ 42 ปี สารวัตรกำนันตำบลสัตหีบ นายพงศธร มาตรภูธร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ นายปัญญา คนเจน อายุ 37 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ นายไชยา โชชัย อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ นายวิบูรณ์ ภู่ทอง อายุ 28 ปี นายจิรภัทร ธุระทันธ์ อายุ 40 ปี นายเศรษฐพงศ์ รุ่งเรืองเจริญผล อายุ 39 ปี นายวีรโรจน์ คชวัฒน์ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ณ วัดเทพประสาท หรือวัดเตาถ่าน หมู่ที่ 4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมี พระครูพิพิธชลธรรม วัดนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ให้ความเมตตามา เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทพระทั้ง 9 รูป
นายยอดชายกล่าวว่า หลังจากที่ทางอำเภอสัตหีบได้ตั้งศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครรักษาดินแดน จำนวนมากเข้ามาร่วมกันป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และได้สร้างผลงานจับกุมทั้งในอำเภอ และขยายผลไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ในระดับต้นๆ ของจังหวัดชลบุรี แต่ว่าการจับกุมแต่ละครั้งย่อมส่งผลให้เกิดปัญหา ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ สาปแช่ง กรนด่า เพราะทำให้ผู้ถูกจับกุมต้องถูกพลัดพรากจากพ่อ แม่ ครอบครัว เข้าไปถูกพันธนาการ กักขัง ในเรือนจำ จนขาดอิสรภาพ ซึ่งทางศาสนาถือว่าเป็นกรรมชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ผู้อื่นเกิดการพลัดพราก และถูกพันธนาการ เกรงว่าจะเกิดเป็นบาปติดตัวไป จึงได้ตกลงปรงใจกัน 9 คน ลาอุปสมบทเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรม นายเวร แต่มิได้หมายความว่าจะเลิกการปราบปรามยาเสพติด เมื่อลาสิกขาบทออกมาแล้วก็ต้องเร่งช่วยกันทำงานต่อไปให้ถึงที่สุด
ด้าน นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า หลายครั้งหลายหนที่มีการจับกุมผู้กระทำความผิด ก็มักจะพบปัญหามากมาย ถ้าใช้ความเมตตา สงสารมากไปก็จะให้สังคมทรามลงทุกวัน จึงต้องยึดความถูกต้องเพราะส่วนมากที่ถูกจับกุมจะไม่มีใครยอมรับความผิดที่ตัวเองกระทำ มีแต่ให้ร้าย กรนด่า สาปแช่งเจ้าหน้าที่ ทุกวิถีทาง แต่ก็เพื่อความสบายใจของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีประสงค์ที่จะอุปสมบทหมู่ 9 องค์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรม นายเวร และมีเจ้าภาพจำนวนมากที่ร่วมกันบริจาค ซื้อผ้าไตร จีวร บาตร และอื่นๆ ในการอุปสมบทหมู่ครั้งนี้ด้วย และได้ข่าวว่ากลุ่มผู้เสพ และผู้จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่แสดงความดีใจ เพราะเป็นโอกาสช่วงว่าง 7 วัน ที่เจ้าหน้าที่อุปสมบท ไว้ลาสิกขาออกมาพร้อมกันก็จะเริ่มปราบปรามกันอย่างจริงจังอีกต่อไป