พิจิตร - ชลประทานเมืองชาละวัน มั่นใจปีนี้รอดพ้นวิกฤติภัยแล้ง เหตุมีฝนลงต่อเนื่อง แม่น้ำยมอุดมสมบูรณ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 20 ปี
นายประเวศน์ ศิริศิลป์ ชลประทานจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ดูสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำยมที่น้ำไหลมาจาก จ.สุโขทัย ,อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เข้ามายัง อ.สามง่าม จ.พิจิตร ว่า ในปีนี้มั่นใจว่าพิจิตรจะไม่ประสบกับปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกลงมาอย่างสม่ำเสมอทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยม ซึ่งปกติจะต้องแห้งขอด กลับมีน้ำอุดมสมบูรณ์ได้ระดับปานกลาง โดยระดับน้ำสูงกว่าสันฝายถึง 1.78 เมตร
นอกจากนี้ ชลประทานจังหวัดพิจิตร ยังได้มีการวางแผน ร่วมกับผู้นำชุมชนและประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำเปิด-ปิด ประตูน้ำ ตามคูคลองต่างๆ เพื่อกักตุนน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งของพื้นที่ฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำยมอย่างเป็นระบบด้วยแล้ว จึงมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่พื้นที่ อ.สามง่าม , อ.โพธิ์ประทับช้าง , อ.วชิรบารมี , อ.บึงนาราง จ.พิจิตร อาจจะรอดพ้นจากวิกฤติภัยแล้ง
ส่วนการทำนาปรังรอบสองของชาวนาในพื้นที่พิจิตรนั้น ถึงแม้ว่าจะห้ามไม่ได้ แต่ก็อยากขอร้องให้ชาวนางดทำนาปรังรอบ 2 เพราะจะได้เป็นการตัดวงจรเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและแมลงบั่ว รวมถึงไม่มั่นใจว่าหลังจากนี้ในช่วงเดือน พ.ค.จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีกหรือไม่ ถ้าหากฝนทิ้งช่วงชลประทานก็ไม่สามารถปล่อยน้ำเข้ามาตามคลองท่อทองแดง , คลองหนองคล้า-รังนก ,คลองวังบัว ,คลองวังยาง ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำปิง และเขื่อนนเรศวรพิษณุโลก ผ่านเข้าคลองชลประทานได้ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหยุดการส่งน้ำและบูรณะซ่อมแซมคันคูคลอง-ประตูน้ำต่างๆ ดังนั้นถ้าทำนาในช่วงนี้ ต้องมีน้ำเก็บกักสำรอง หรือมีบ่อน้ำบาดาลใต้ดินแบบตัวใครตัวมัน
และการทำนาปรังรอบ 2 ข้าวจะไปตั้งท้องในช่วงเดือน มิ.ย. หรือ ก.ค. ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้ฝนจะมาเร็ว ซึ่งอาจจะส่งผลให้ข้าวนาปรังรอบ 2 ถูกน้ำท่วมได้ รวมถึงพอเข้าฤดูนาปีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและแมลงบั่ว ที่มีอาหารเป็นข้าวนาปรัง ก็จะหวนกลับมาทำลายข้าวนาปีอีก
ดังนั้น จึงขอร้อง ว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงพักชาวนาและพักดิน จึงควรงดการทำนาปรังรอบ 2 แล้วไปเอาจริงจังในช่วงนาปีจะดีที่สุด