ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่น ปล่อยขบวนคาราวานร่วมด้วยช่วยกันนำสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ค่ายอพยพ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวเสริมกำลังเข้มหลังพบนักท่องเที่ยวกล้าตายอยากเข้าไปชมบรรยากาศใกล้พื้นที่ปะทะ
เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ (1 พ.ค.)ที่หน้า สภ.เมืองขอนแก่น นายพยัต ชาญประเสริฐ รอง ผ้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์ลำเลียงสิ่งของอุปโภคและบริโภคของชาวจังหวัดขอนแก่นรวม 8 คัน เพื่อนำไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่ศูนย์อพยพ บ.โคกกลาง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
นายพยัตกล่าวว่า สิ่งของทั้งหมดได้มาจากการเปิดรับบริจาคร่วมกันระหว่าง สถานวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน และศูนย์ประสานเหตุแจ้งข่าวศูนย์ข่าวทานตะวัน ที่ได้ตั้งจุดรับบริจาคภายในตลาดสดบางลำพูและตามสถานที่ต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดเพื่อให้ชาวขอนแก่นได้ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขบวนคาราวานลำเลียงสิ่งของจะเดินทางถึง จ.สุรินทร์ ในช่วงบ่าย ก่อนที่จะส่งมอบให้แก่ผู้ดูแลเพื่อทำการแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยและกำลังทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ท.ชาคริต มงคลศรี รอง ผกก.3 บก.ทท. (ตำรวจท่องเที่ยวอีสาน) กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและสายตรวจ จาก จ.อุบลราชธานี ขอนแก่น และนครราชสีมา หมุนเวียนไปประจำการที่ศูนย์อพยพทุกจุดเพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการในด้านต่างๆ
รวมทั้งการประสานงานกับบริษัททัวร์ทุกจังหวัดในการประชาสัมพันธ์แจ้งให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ทราบถึงสถานการณ์ หลังพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางส่วนมีการแจ้งความจำนงเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ความมั่นคง
“ แม้กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติบางประเทศจะยกเลิกโปรแกรมทัวร์ไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยังคงพบว่าเข้ามาเที่ยวในพื้นที่เรดโซน ตามคำประกาศของฝ่ายความมั่นคงทำให้ ตำรวจท่องเที่ยวต้องประชาสัมพันธ์และห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยและให้ใช้เส้นทางที่ทางการนั้นได้กำหนดไว้ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น”
รอง ผกก.3 บก.ทท.กล่าวอีกว่า ต้องขอความร่วมมือไปยังนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่พยายามเข้ามาเที่ยวชมในแนวเขตความมั่นคงที่ทางการได้ประกาศไว้ เพราะประชาชนบางส่วนเมื่อนำสิ่งของมามอบให้กับศูนย์อพยพแล้วยังคงพยายามที่จะเข้าไปชมในจุดที่ใกล้เคียงกับแนวปะทะมากที่สุด โดยเฉพาะจุดที่กันให้สื่อมวลชนนั้นเข้าไปถึงก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวบางส่วนพยายามที่จะเข้าไปเก็บภาพหรือดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้
ตำรวจท่องเที่ยวต้องประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มที่ชอบความท้าทายนั้นได้ทราบเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้ไปขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับจุดปะทะทุกจังหวัด
เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ (1 พ.ค.)ที่หน้า สภ.เมืองขอนแก่น นายพยัต ชาญประเสริฐ รอง ผ้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์ลำเลียงสิ่งของอุปโภคและบริโภคของชาวจังหวัดขอนแก่นรวม 8 คัน เพื่อนำไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่ศูนย์อพยพ บ.โคกกลาง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
นายพยัตกล่าวว่า สิ่งของทั้งหมดได้มาจากการเปิดรับบริจาคร่วมกันระหว่าง สถานวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน และศูนย์ประสานเหตุแจ้งข่าวศูนย์ข่าวทานตะวัน ที่ได้ตั้งจุดรับบริจาคภายในตลาดสดบางลำพูและตามสถานที่ต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดเพื่อให้ชาวขอนแก่นได้ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขบวนคาราวานลำเลียงสิ่งของจะเดินทางถึง จ.สุรินทร์ ในช่วงบ่าย ก่อนที่จะส่งมอบให้แก่ผู้ดูแลเพื่อทำการแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยและกำลังทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ท.ชาคริต มงคลศรี รอง ผกก.3 บก.ทท. (ตำรวจท่องเที่ยวอีสาน) กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและสายตรวจ จาก จ.อุบลราชธานี ขอนแก่น และนครราชสีมา หมุนเวียนไปประจำการที่ศูนย์อพยพทุกจุดเพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการในด้านต่างๆ
รวมทั้งการประสานงานกับบริษัททัวร์ทุกจังหวัดในการประชาสัมพันธ์แจ้งให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ทราบถึงสถานการณ์ หลังพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางส่วนมีการแจ้งความจำนงเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ความมั่นคง
“ แม้กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติบางประเทศจะยกเลิกโปรแกรมทัวร์ไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยังคงพบว่าเข้ามาเที่ยวในพื้นที่เรดโซน ตามคำประกาศของฝ่ายความมั่นคงทำให้ ตำรวจท่องเที่ยวต้องประชาสัมพันธ์และห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยและให้ใช้เส้นทางที่ทางการนั้นได้กำหนดไว้ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น”
รอง ผกก.3 บก.ทท.กล่าวอีกว่า ต้องขอความร่วมมือไปยังนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่พยายามเข้ามาเที่ยวชมในแนวเขตความมั่นคงที่ทางการได้ประกาศไว้ เพราะประชาชนบางส่วนเมื่อนำสิ่งของมามอบให้กับศูนย์อพยพแล้วยังคงพยายามที่จะเข้าไปชมในจุดที่ใกล้เคียงกับแนวปะทะมากที่สุด โดยเฉพาะจุดที่กันให้สื่อมวลชนนั้นเข้าไปถึงก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวบางส่วนพยายามที่จะเข้าไปเก็บภาพหรือดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้
ตำรวจท่องเที่ยวต้องประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มที่ชอบความท้าทายนั้นได้ทราบเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้ไปขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับจุดปะทะทุกจังหวัด
