ทหารไทยยังไม่วางใจ เคลื่อนรถถังด้าน “เขาวิหาร” เสริมชายแดนสุรินทร์

ศรีสะเกษ - ทหารไทยยังไม่วางใจ เคลื่อนรถถังกว่า 20 คัน จากชายแดนด้านเขาพระวิหาร สู่ปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ขณะ “ฮุน มาเน็ต” เรียกหน่วยรบพิเศษ และกองรักษาความปลอดภัย จากด้าน เขาพระวิหาร เข้าเสริม 700 นาย

วันนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่บริเวณถนนสายกันทรลักษ์-ศรีสะเกษ ต.กระแชงใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีขบวนรถถังของทหารไทยจากชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ประมาณ 20 คัน โดยรถถังทั้งหมดบรรทุกอยู่บนรถบรรทุกเดินทางมุ่งหน้าไปยังด้าน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งทหารที่ประจำการบนรถถังสำรวจตรวจตราดูแลความพร้อมรบอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพื่อไปสนับสนุนการสู้รบระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา ที่บริเวณชายแดนปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ที่มีการปะทะกันยืดเยื้อมา 7 วันแล้ว

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากแหล่งข่าวทางทหารที่ประจำอยู่แนวหน้าด้านเขาพระวิหาร เปิดเผยว่า พล.ท.ฮุน มาเน็ต รอง ผบ.ทบ.กองทัพกัมพูชา ได้มีคำสั่งเรียกตัวทหารสังกัด หน่วยรบพิเศษ (รพศ.) 911 และ กองพลรักษาความปลอดภัย (รปภ.) 70 ที่ประจำอยู่ชายแดนไทย- กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รวม 700 นาย ไปสนับสนุนแนวรบด้าน จ.สุรินทร์ หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการเปิดฉากปะทะกับไทยมาตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา

โดยมียอดทหารกัมพูชาเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 300 นาย จากการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ และ 1 ในนั้นมีนายทหารที่มีตำแหน่งเป็นถึง ผบ.พันน้อยสนับสนุนที่ 4 ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.ท.ซุม โซซิ๊ด โฆษกกระทรวงกลาโหม กัมพูชา เป็นเหตุให้ต้องออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตาเมื่อช่วงแรกของการปะทะ ที่ จ.สุรินทร์

ทั้งนี้ นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายกัมพูชายังได้มีคำสั่งให้ทหารประจำจังหวัดปรีเวง ที่ขึ้นตรงกับ กองทัพภูมิภาคที่ 5 จำนวน 1 กองพัน เข้าไปเสริมกำลังที่ จ.สุรินทร์