พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบางปะหัน พระนครศรีอยุธยา กว่า 1,000 คน รวมตัวประท้วงคัดค้านสร้างโรงงานแปรรูปถ่านหิน
เวลา 10.00 น.วันนี้ (25 เม.ย.) นายสมชาย แก้วนิล ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อ.บางประหัน จ.พระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ ทองสีเข้ม ส.อบจ.เขต อ.บางปะหัน นายสุชาติ บุญอุดหนุน แกนนำ พร้อมตัวแทนชาวบ้านตำบลบ้านม้า ตำบลทับน้ำ ตำบลทางกลาง ตำบลบางบ้านขล้อ ตำบลบ้านใหม่ ตำบลตานิม ตำบลางปะหัน ตำบลหันสังข์ และ ตำบลบางนางร้า กว่า 1,000 คนได้ รวมตัวกันที่ว่าการอำเภอบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปถ่านหินที่จะมาตั้งที่ ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน
โดยอ้างว่า โรงงานดังกล่าว ไม่เคยมาสอบถามหรือทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้าน ว่า เห็นด้วยหรือไม่และมีผลกระทบกับชุมชนที่อยู่ในบริเวณรอบโรงงานและใกล้เคียงว่ามีผลกระทบทั้งคนและสิ่งแวดล้อมอย่างไร อยู่ๆ ก็จะมาสร้างโดยเอาเงินไปให้นักการเมืองท้องถิ่นบางคนแล้วให้มาแจกกับชาวบ้านเพื่ออุดปากไม่ให้เรียกร้องคัดค้านการก่อสร้างโรงงานนั้น ทางโรงงานทำไม่ถูกตามขั้นตอน ชาวบ้านจึงรวมตัวประท้วงคัดค้านมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
ต่อมา นายธีระชัย ทศรส นายอำเภอบางปะหัน พร้อมด้วย นายโกศล แสงรังสี ตัวแทนผู้ก่อสร้างโรงานแปรรูปถ่านหิน นายอนุทิน แก้วจ้อนน้อย นายก อบต.หันสังข์ และอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกชาวบ้านเข้ามาเจรจาพูดคุยหาข้อสรุปที่ห้องประชุมอำเภอ โดยชาวบ้านได้มอบหมายให้ นายสุชาติ บุญอุดหนุน แกนนำชาวบ้านขึ้นพูดถึงปัญหาผลกระทบของชาวบ้านหากโรงงานดังกล่าวจะมาก่อสร้าง
เพราะว่าชาวบ้าน อ.บางปะหัน ส่วนใหญ่ม่อาชีพเกษตรกรรม เสียส่วนใหญ่ที่ชาวบ้านมาประท้วงคัดค้าน เพราะว่าเมื่อโรงงานมาตั้งนั้นจะมีผลกระทบ คือ ฝุ่นละออง มลพิษทางเสียง และอันตรายที่กิดจากฝุ่นละอองจากถ่านหินซึ่งประกอบด้วยสารเคมีคาร์บอน ไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบหลัก นอกจากนี้ ยังมีออกซิเจนซัลเฟอร์ (กำมะถัน) อีกด้วย หากเราหายใจเอามันเข้าไปในร่างกาย ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น โรคปอด ถุงลมโป่งพอง เป็นต้น ส่วนผลกระทบกับการดำรงชีวิตการทำมาหากิน การทำเกษตรกรรม ผลผลิตพืชผักปนเปื้อนสารเคมีและฝุ่นละอองพุดง่ายๆว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย ทางโรงงานต้องฟังเสียงประชาชน ว่า ต้องการให้โรงงานมาก่อตั้งหรือไม่
นายธีระชัย นายอำเภอบางปะหัน จึงได้แนะนำให้ทางตัวแทนชาวบ้าน ผู้นำชุมชน โรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันลงนามว่าได้มาตกลงทำความเข้าใจ แล้วทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวเสนอต่อจังหวัด ว่า จะให้ก่อตั้งหรือไม่ก่อตั้งนั้นจะรู้ผลไม่เกิน พ.ค.ชาวบ้านจึงพอใจและยอมสลายตัวเพื่อรอผลอีกครั้งหนึ่ง