xs
xsm
sm
md
lg

ชาวกรุงเก่านับหมื่นร่วมพระราชทานเพลิงศพ “หลวงพ่อวิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระเทพวรเวที (หลวงพ่อวิน) อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระนครศรีอยุธยา - พระสงฆ์ในพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงร่วม 5,000 รูป และคลื่นประชาชนนับหมื่นคนหลั่งไหลร่วมพระราชทานเพลิงศพ พระเทพวรเวที (หลวงพ่อวิน) อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (24 เม.ย.) ที่วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีงานพระราชทานเพลิงศพพระเทพวรเวที (หลวงพ่อวิน) อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้รับพระกรุณามหาธิคุณผ้าไตรพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และผ้าไตรพระราชทานจาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งมี นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะภาค 14 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ภายในงานมีพระสงฆ์ใน จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงประมาณ 5,000 รูป และคลื่นประชาชนจำนวนมากได้หลั่งไหลมาร่วมงานนับหมื่นคนจนแน่นลานวัด ซึ่งทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้า และไว้อาลัยอย่างสุด ซึ่งทางวัดได้แจกหนังสือประวัติของ พระเทพวรเวที พร้อมกับเหรียญที่ระลึกใบเสมาด้านหน้าเป็นรูปพระเทพวรเวทีด้านหลังเป็นยันต์หลวงพ่อกลั่น เนื้อทองแดงคนละ 1 ชุด

พระเทพวรเวที หรือหลวงพ่อวิน เป็นพระเกจิอาจารย์ได้มรณภาพลงอย่างสงบภายในห้องนอนที่วัดบรมวงศ์ฯ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.53 เวลา 05.30 น.ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว อายุ 66 ปี

สำหรับประวัติ พระเทพวรเวที (วิน โฆสิโต) เกิดเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2487 เดิมชื่อ วิน ศัตรูคร้าม เป็นชาว ต.ไผ่ล้อม อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ นายจันทร์ ศัตรูคร้าม โยมมารดาชื่อ นางยวง ศัตรูคร้าม ชีวิตท่านเกิดในดินแดนที่รอบบ้านเป็นดินแดนแห่งความแห้งแล้ง ต้องอดทนต่อการทำมาหากินประกอบอาชีพเกษตรกรรม จนจบการศึกษาระดับชั้นปีที่ 4 โรงเรียนวัดหนองกลาง และได้ไปอาศัยอยู่ที่วัดหนองกลาง ซึ่งพี่ชายได้ไปอุปสมบทอยู่ที่นั่นเป็นลูกศิษย์พี่ชาย จึงทำให้ได้ซึมซับเรื่องของพระพุทธศาสนา เป็นเด็กที่มีจิตใจเยือกเย็นผูกพันพระพุทธศาสนา

เมื่อปี 2500 อายุครบ 13 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดหนองกลาง ต.ไผ่ล้อม อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างที่บรรพชาเป็นสามเณรได้ศึกษาเล่าเรียนนักธรรม จนสอบได้นักธรรมเอก เมื่อปี พ.ศ.2505 หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาบาลี สันสกฤต โดยมุ่งหน้าเข้าไปศึกษาที่กรุงเทพมหานคร ณ วัดอัมพวา เขตบางกอกน้อย จากสำนักเรียนวัดสามพระยา เมื่อปี พ.ศ.2510 สอบได้เปรียญ 3 ประโยค ปี 2511 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ปี 2520 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค ระหว่างที่ศึกษาเปรียญธรรมนั้นยังได้ศึกษาวิชาสามัญกับโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ จนจบการศึกษาผู้ใหญ่ระดับ 4 (มศ.3)

ปี 2532 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2541 ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปี 2542 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนถึงปัจจุบันนี้ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง เป็นพระที่อุทิศกายอุทิศใจต่อพระพุทธศาสนา ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองต่อวงการพระพุทธศาสนาในระดับจังหวัดระดับประเทศ ท่านเป็นพระนักเทศน์สั่งสอนประชาชนอยู่ตลอดเวลา ท่านละสังขารไปด้วยอาการสงบ สิริอายุ 66 ปี พรรษา 45
กำลังโหลดความคิดเห็น