ศูนย์ข่าวศรีราชา - “มนต์สิทธิ์ คำสร้อย” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง รุดเยี่ยมเหยื่อรถตู้คณะพุ่งชนสาหัสที่สัตหี เมื่อหลายวันก่อน
จากกรณี นายสมหมาย เข็นสันเที๊ยะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 11 ต.ในเมือง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น คนขับรถตู้ให้กับคณะนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง มนต์สิทธิ์ คำสร้อย หรือ นายบุญเถิง แก้วศรีนวล ระหว่างขับรถเดินทางกลับจากการแสดงในงานสงกรานต์ ที่วัดรังสีสุนทร กม.5 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ ได้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนรถจักรยานของ นายสุชาติ บัวเกิด อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว บนถนนสุขุมวิท บริเวณสี่แยกไฟแดงบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้ที่โดยสารมาในรถตู้จำนวน 5 ราย ปลอดภัย
ล่าสุด วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นายบุญถึง แก้วศรีนวล ศิลปินนักร้องลูกทุ่งชื่อดังในนามของ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย พร้อมนักร้องลูกทุ่งสาว อั้ม นันทิยา ศรีอุบล ซึ่งอยู่ค่ายเพลงชัวร์เอนเทอร์เทนเมนท์ ด้วยกัน และ นายสมหมาย เข็นสันเที๊ยะ อายุ 39 ปี คนขับรถตู้ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ นายสุชาติ บัวเกิด ผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับนำกระเช้าของขวัญและเงินสดจำนวนหนึ่ง มามอบให้กับ นางไพรัตน์ คำภานนท์ อายุ 56 ปี มารดาผู้ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นได้เดินทางไปให้ปากคำกับ ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรเจ้าของคดีที่ สภ.สัตหีบ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
นายมนต์สิทธิ์ คำสร้อย กล่าวแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียหาย พร้อมขอยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนเจ็บหลังเกิดเหตุแล้วไม่ได้นิ่งดูดายได้ติดตามข่าวคราวอยู่ตลอดเวลา แม้เงินที่นำมามอบเพื่อช่วยเหลือปลอบขวัญแก่ตัวคนเจ็บและครอบครัวจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากนัก แต่คิดว่า จะสามารถนำไปเยียวยารักษาตัวให้อาการดีขึ้น และขอให้คนเจ็บหายจากอาการบาดเจ็บในเร็ววัน
นายสมหมาย เข็นสันเที๊ยะ อายุ 39 ปี คนขับรถตู้ กล่าวว่า เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาขณะนี้ได้ช่วยเหลือไปแล้วในเบื้องต้น และขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพร้อมที่จะขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทุกอย่างจนกว่าคนไข้จะหายเป็นปกติ
ด้าน นางไพรัตน์ คำภานนท์ อายุ 56 ปี มารดาผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะนี้อาการของลูกชายยังไม่พ้นขีดอันตราย เนื่องจากแรงกระแทงของตัวรถ ทำให้ ซี่โครงซ้ายหัก เลือดออกปอด ม้ามแตก ขาหักทั้งสองข้าง กระเพาะปัสสาวะฉีก และเสียเลือดมากต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ขณะนี้อยากให้ลูกชายหายจากอาการในเร็ววัน และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเอง และครอบครัวได้เดินทางมาทำงานก่อสร้างในพื้นที่สัตหีบ และได้หยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้กลับไปบ้านที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อไปไหว้กระดูกบรรพบุรุษ ส่วนบุตรชายได้อยู่ตามลำพังที่บ้านเช่าในอำเภอสัตหีบ จนมาประสบอุบัติเหตุ ก่อนจะขาดการติดต่อจนเดินทางกลับจึงได้ติดตามหาตัว จนทราบว่า บุตรชายถูกรถชน ได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู
