พิษณุโลก - เจอถ้ำหลบภัยแห่งใหม่ที่ อช.ภูหินร่องกล้า เผยเป็นค่ายคอมนิสต์เก่า-ล้างสมองยุวชน หลังหัวหน้าอุทยานฯพา “วิกรม กรมดิษฐ์เศรษฐีนิคมฯอมตะ”พบสหาย อดีต ผกค.ลุยป่าย้อนอดีต ปีนขึ้นผาชูธง-ลานหินปุ่ม เปิดหน้ากล้องแหล่งท่องเที่ยวอุทยานฯเมืองไทย ก่อนพาบัส 3 คัน มุ่งหน้าทัวร์ลุ่มน้ำโขง 5 ประเทศ
วันนี้ (7 เม.ย.54) รถบัสทัวร์ 3 คันของนายวิกรม กรมดิษฐ์ เจ้าของอมตะคอร์ปฯ พร้อมคณะ 15 คน ได้เดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อมาสัมผัสอากาศบนยอดภูที่สูงกว่า 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและเที่ยวสถานที่ไฮไลท์สำคัญ คือ ผาชูธง พร้อมกับชมกุหลาบขาวบานสะพรั่งบนลานหินปุ่มและหินแตก
จากนั้นเดินเท้าไปยังเส้นทางป่าดิบเขาที่มี “ดอกปาหนัน”พันธุ์ไม้หายาก กระทั่งพบ “ถ้ำหลบภัยทางอากาศ”แห่งใหม่ หลังจากที่ได้พูดคุย “สหายสถาพร”อดีตแพทย์คอมมิวนิสต์ ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของภูหินร่องกล้า สร้างความสนใจแก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนายวิกรม กรมดิษฐ์ เป็นอย่างมาก
นายไพรัช มณีงาม หัวหน้าอุทยานภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก กล่าวว่า สภาพอากาศ ณ ที่ทำการอุทยานฯวันนี้ เย็นสบาย อากาศชุ่มชื้น ต้นไม้เขียวขจี แตกต่างจากฤดูแล้งปีก่อนๆ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเที่ยวและพักบนภูหินร่องกล้าต่อเนื่อง ล่าสุดคณะทัวร์ของนายวิกรม มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองไทย ได้เลือกมาแวะพักที่อุทยานฯ เพื่อเปิดหน้ากล้องสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เป็นอุทยานฯของประเทศไทย ก่อนเดินทางไปยัง 5 ประเทศลุ่มน้ำโขง ผ่านไปยังเวียงจันทน์, หลวงพระบาง สปป.ลาว - เวียดนาม และหยุนหนัน ประเทศจีนและพม่า
“ผมได้พาสหายสถาพร อดีตหมอยุคคอมมิวนิสต์ พูดคุยกับเจ้าของอมตะนคร เพราะเขาต้องการเรียนรู้ชีวิตคน กระทั่งทราบว่า ที่ภูหินร่องกล้ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ยังไม่ได้เปิดอีก นั่นก็คือ ถ้ำหลบภัยทางอากาศ ซึ่งภายในถ้ำเป็นสถานที่ฝึกยุวชนหรือล้างสมองเด็กไม่เกิน 13 ปี ปลูกฝังความเชื่อผิดๆในอดีต ปัจจุบันถ้ำแห่งนี้ ถือว่า สมบูรณ์ มีช่องลับต่างๆอยู่บนเส้นทางไปผาชูธง” หน.อช.ภูหินร่องกล้า เผย
นายสถาน โรจน์นิรันทร์ หรือ สหายสถาพร-หมอสถาน อายุ 56 ปี อดีตหมอของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เคยปฏิบัติต่อสู้กับรัฐบาลไทยช่วงปี2511-2525 บนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บอกว่า ถ้ำแห่งใหม่ที่ค้นพบ อยู่ริมถนนทางไปลานหินปุ่มและผาชูธงนั้น อดีตเป็นโรงเรียนยุวชน ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่นำเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี มาบ่มเพาะศึกษาลัทธิคอมมิวนิสต์ ก่อนที่จะส่งต่อไปยังโรงเรียนการเมือง ให้เป็นนักรบป่า
นายสถาน บอกว่า ยุคนั้นคอมมิวนิสต์ยึดภูหินร่องกล้าเป็นฐานที่มั่น จากป่ารกทึบ สหายจะเดินเชื่อมแต่ละฐาน ใต้ไม้ใหญ่และซอกหิน ถ้ำยุวชนคอมมิวนิสต์จะค่อนข้างสำคัญ ไว้สำหรับสอนเยาวชน ถ้ามีเครื่องบินทิ้งระเบิด เด็กก็จะวิ่งไปหลบอยู่ในถ้ำ ซอกหินลึกเป็นทางเดิน ก็ปลอดภัย แต่มีอากาศหนาวเย็นมาก
ด้านนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานบริหาร บ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เปิดเผยว่า เดินทางมาเพื่อสัมผัสธรรมชาติและคน เริ่มต้นจากอุทยานฯห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ และมายังอุทยานฯภูหินร่องกล้า เพราะที่แห่งนี้ มีเอกลักษณ์ทั้งธรรมชาติที่อยู่สูง อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี และทราบข่าวว่า มีน้ำค้างแข็ง ถือว่า ธรรมชาติสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ ที่คนในชาติมีความขัดแย้งทางความคิดในสมัย 6 ตุลาฯ
นายวิกรม บอกว่า จุดประสงค์ที่นอนพักค้างแรมตามอุทยานต่างๆก็เพื่อเปิดหน้ากล้องโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวอุทยานฯสำคัญในเมืองไทย ก่อนที่จะออกเดินทางทำสารคดีต่อที่เวียงจันทน์-หลวงพระบาง สปป.ลาว มุ่งหน้าเข้าเดียนเบียฟู ประเทศเวียดนาม ต่อไปยังมณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน วกกลับเข้าประเทศพม่า ก่อนกลับเข้าประเทศไทยอีกครั้ง
ทั้งนี้ “วิกรม กรมดิษฐ์”เศรษฐีเชื้อสายจีน เติบโตจากค้าขายทุกอย่าง นำสินค้าไต้หวันเข้าและนำสินค้าไทยส่งออกนอก จนตั้งโรงงานผลิตอาหารส่งนอก จึงเป็นที่มาของธุรกิจ”นิคมอุตสหกรรม” ซึ่งกำลังเดินสายทัวร์ 5 ประเทศลุ่มน้ำโขง บอกตอนท้ายว่า โลกกำลังประสบกับความไม่สมดุลของธรรมชาติ ฝนชุก แล้งจัด ผลจากมนุษย์ปล่อยก๊าซ ในทะเลของต่างประเทศ ก็มีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น เคยพบว่า ปลาตายเป็นฝูง เหตุการณ์ภาคใต้ นั่นคือ ผลลัพธ์
“มุมมองด้านธุรกิจ ต้องว่าด้วยผลประโยชน์เป็นหลัก แต่ทำอย่างไร ให้เกิดผลกระทบน้อยสุด คนไทยยังไม่รู้อีกเยอะว่า ควรทำสิ่งใด ไม่ควรทำสิ่งใด วันนี้ นิคมอุตสาหกรรมของผม ใช้น้ำวันละ 40 ล้านคิว แต่น้ำกลับมาใช้เกือบทั้งหมด95 % เรียกว่า แทบไม่มีของเสียปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม”