พิษณุโลก - จนท.อุทยานฯ นับ 100 คน ลุยรื้อถอนอาคารชาวบ้านแยง-นครไทย ระบุ อยู่ในเขตอุทยานฯทุ่งแสลงหลวง ด้านเจ้าของซึม! ต่อรองอยู่นานไม่เป็นผล ปล่อยให้ชุดพรางรื้อทั้งหลัง 8 ห้อง
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า นายวิรัช จตุพนาพร ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กรมอุทยานฯ, นายสุชาติ วทนะกาญจน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง วนอนุรักษ์ และป้องกันทรัพยากรเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.7 (บ้านแยง), สายตรวจปราบปรามประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 สายที่ 1, อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล 1 (วังทอง), หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พล 7 (บ้านแยง), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล 11 (น้ำเลา) ฯลฯ
สนธิกำลังร่วมกันดำเนินการตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ทำลายหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 1 หลัง แบ่งกั้นจำนวน 8 คูหา ของนายบรรจง ดับปากพิง ผู้กระทำผิด ดำเนินคดีตามประจำวันข้อ 7 คดีอาญาที่ 61/2552 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2552 ที่สั่งให้ นายบรรจง ดับปากพิง ทำลายหรือรื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ดังนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จึงรื้อถอนและขนย้ายสิ่งต่าง ออกไปจากอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.54 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดำเนินการครั้งนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 86 คน รถยนต์ 10 คัน ขนย้าย บ้านเรือน-สิ่งของ จากบ้านหลังดังกล่าวในหมู่ที่ 11 ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของชาวบ้าน โดยเฉพาะนายบรรจง มีความพยายามต่อรองประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ลงมือรื้อหลังคาและสังกะสี ออกวางกองเกือบร้อยแผ่นพร้อมต้นกล้วย, มะพร้าว, มะนาว ฯลฯ เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานฯ
นายบรรจง ดับปากพิง ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีฐานบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงแจ้งให้นายบรรจง ดับปากพิง ทราบเป็นครั้งที่ 1 (7 มกราคม พ.ศ.2553) และครั้งที่ 2 (6 มกราคม พ.ศ.2554) กระทั่งเวลาล่วงเลย เจ้าหน้าที่จึงได้รื้อถอน เพราะสิ่งปลูกสร้างอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ไม่ใช่อยู่ในพื้นที่กันออก หรือ พื้นที่ที่อุทยานฯ อนุญาตให้ราษฎรอยู่อาศัย
