ท้องถิ่นแปดริ้วจัดเรียนฟรีของแท้สนองบุตรหลานชาวบ้าน

ฉะเชิงเทรา - ท้องถิ่นแปดริ้วแสดงบทบาทตามมาตรา 289 ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 เรียนฟรีภาคฤดูร้อนแบบของแท้ สนองให้แก่บุตรหลานชาวบ้าน ขณะโรงเรียนชื่อดังในเขตตัวเมือง ยังทำธุรกิจด้านการศึกษาทวนกระแสประชานิยม เรียกเก็บเงินทั้งค่าหัวในภาคฤดูร้อนและค่าสนับสนุนด้านการศึกษา อีกรายละหลายพันบาท สนองนโยบายเรียนฟรีในภาครัฐแบบจอมปลอม

วันนี้ (6 เม.ย.) นายวิรัตน์ ศรีอุไร นายก อบต.คลองนคร เนื่องเขต ได้เปิดตัวโครงการ “จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน” ซึ่งเปิดทำการเรียนการสอนเป็นประจำในช่วงปิดภาคเรียนของทุกปี ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-10 พ.ค.ในภาควิชา ดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทย คอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษ ซึ่งเรียนกับครูชาวต่างชาติที่โรงเรียนวัดชนะสงสาร (อนันตชัยประชานุกูล) ตั้งอยู่พื้นที่ ม.7 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา

นายวิรัตน์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ของ อบต.คลองนครเนื่องเขต นั้น เป็นการได้แสดงบทบาท ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในมาตรา 289 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 ที่ระบุไว้ว่า “องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นย่อมมีอำนาจหน้าที่ในการบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น มีสิทธิที่จะจัดการศึกษาอบรม และการฝึกอาชีพตามความเหมาะสมและความต้องการภายในท้องถิ่น” จึงได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาคฤดูร้อนขึ้นมาในครั้งนี้

โดยให้บุตรหลานของชาวบ้าน ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ป.1-ป.6 ในเขตพื้นที่ สามารถที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรม “เรียนฟรี” ได้ โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในภาควิชาภาษาอังกฤษ นั้น ได้ว่าจ้างวิทยากร ครูผู้สอนจากเจ้าของภาษา ชาวต่างชาติมาทำการสอนให้แก่บุตรหลานของชาวบ้านอย่างไม่น้อยหน้าโรงเรียนชื่อดังในเขตตัวเมืองอีกด้วย

ขณะที่ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ผู้ปกครองของนักเรียน ที่ได้ส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนในโรงเรียนชื่อดังของรัฐ ในเขตตัวเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า บุตรของตนนั้นกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาล 2 ได้ถูกทางโรงเรียนเรียกเก็บค่าเล่าเรียน ในภาคฤาดูร้อนเป็นเงินจำนวน 1,300 บาท และในช่วงก่อนเปิดเทอมจะต้องเสียค่าสนับสนุนการศึกษาอีก 3,900 บาท

ส่วนด้าน น.ส.จี (นามสมมติ) อายุ 30 ปี กล่าวว่า บุตรสาวของตนกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ป.2 ที่โรงเรียนชื่อดังทางด้านภาษาต่างชาติแห่งหนึ่ง ในเขตตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ถูกทางโรงเรียนเรียกเก็บค่าเรียนพิเศษภาคฤดูร้อนในราคาสูงเช่นกัน เป็นเงินถึง 1,600 บาท รวมบุตร 2 คน ต้องหาเงินมาจ่ายรวม 3,200 บาท และก่อนเปิดภาคเรียนในฤดูการใหม่จะต้องเสียค่าเทอมไม่รวมค่าจัดกิจกรรมอื่นๆ อีก คนละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท

ที่ต้องทนหารายได้ เพื่อมาเสียค่าเล่าเรียนให้แก่บุตรสาวทั้งสองคนนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะให้ลูกๆ ได้เล่าเรียนในโรงเรียนที่ดีๆ เพื่อให้ได้เรียนรู้เท่าทันกับลูกของชาวบ้านคนอื่นๆ เขา