ตาก - บุหรี่เถื่อนยังวางขายเกลื่อนชายแดนแม่สอด หลังไทยปรับภาษีขึ้น ด้านพาณิชย์จังหวัดตาก เชื่อรัฐปรับภาษาบุหรี่ไม่กระทบตลาด เหตุเป็นสินค้าบาป ไม่จำเป็นต่อผู้บริโภคทั่วไป
นายพสิษฐ์ พรหรมภักดี ผู้ช่วยพาณิชย์จังหวัดตาก กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรีปรับขึ้นภาษีบุหรี่อีก 20-40 บาทต่อซอง รวมทั้งการขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เหล้า-เบียร์) ว่า การปรับขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นหน้าที่ของกรรมสรรพสามิต แต่เชื่อว่าการปรับขึ้นภาษีจะไม่ส่งผลกระทบต่อการกักตุนสินค้าและไม่กระทบต่อการขาดตลาด เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อผู้บริโภคทั่วไป
ทำให้พ่อค้าที่คิดจะกักตุนสินค้าบุหรี่-เหล้า-เบียร์ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร รวมทั้งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ไม่อยากให้คนได้ใช้อยู่แล้ว การปรับขึ้นภาษีนั้นเป็นนโยบายหรือวัตถุประสงค์ที่ไม่ต้องการขายอยู่แล้ว
“ตัวแทนหรือพ่อค้าผู้จำหน่าย คงจะไม่ลดปริมาณการขายเพื่อกักตุน รอราคาใหม่ เพราะหากมีการขึ้นภาษีหรือราคาสินค้า บุหรี่-เหล้า-เบียร์ ก็อาจส่งผลทำให้ผู้บริโภคเลิกหรือหันไปซื้อสินค้าปลอดภาษีแทน ซึ่งราคาที่ปรับขึ้นใหม่ตามภาษีก็จะมีส่วนกระทบกับยอดการจำหน่ายที่ลดลงอย่างแน่นอน จากปัญหาทางเศรษฐกิจที่เงินทองหายากแต่ราคาสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ลด-หรือเลิกการซื้อสินค้าประเภทนี้ไปเลย” ผู้ช่วยพาณิชย์จังหวัดตาก กล่าว
นายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวในเรื่องนี้ว่า การปรับขึ้นภาษี มองได้ 2 มุม คือ ด้านหนึ่งรัฐเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น และอีกด้านคือทำให้ผู้บริโภค ลด-ละเลิก เพื่อสุขภาพอนามัยดีขึ้นเศรษฐกิจครอบครัวดีขึ้นเพราะจะได้ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย และอีกมุมหนึ่งก็เป็นห่วงว่าผู้บริโภคจะหันไปซื้อสินค้าประเภทปลอดภาษี บุหรี่-เหล้า-เบียร์ หนีภาษี ทำให้รัฐขาดรายได้ส่วนนี้ ดังนั้น เมื่อมีนโยบายปรับขึ้นภาษี บุหรี่-เหล้า-เบียร์ ก็ต้องมีมาตรการควบคุมสินค้าหนีภาษีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ ครม.มีมติปรับขึ้นภาษีบุหรี่นั้นที่บริเวณใต้สะพานมิตรไทย-พม่า บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พ่อค้าชาวพม่าที่จังหวัดเมียวดี ได้นำบุหรี่และสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่หนีภาษีมาวางขายให้กับชาวไทยรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวตลาดริมแม่น้ำเมย โดยสามารถจำหน่ายได้มากขึ้นในช่วงก่อนเทศกาลวันสงกรานต์