ฉะเชิงเทรา - หอการค้าแปดริ้วแนะโชวห่วย-ผู้ค้าปลีก ต้องรู้จักปรับตัวเพื่อความอยู่รอด หลังถูกผู้ค้ารายยักษ์เรียงหน้าบุกเข้าพื้นที่แย่งตลาด ผุดห้างขนาดใหญ่ขึ้นแข่งอย่างต่อเนื่อง เผยยังมีจุดช่วยยื้อลมหายใจ จากการทำการค้าในระบบครอบครัว ที่มีต้นทุนค่าการบริการจัดการต่ำ แบบไร้ค่าแรง
นายวัฒนา รัตนวงศ์ ประธานหอการค้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงผู้ค้าปลีก และร้านค้าโชวห่วย ในเขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังประสบปัญหา จากการถูกผู้ค้ารายใหญ่ จากนานาชาติ บุกเข้ายึดตลาดแย่งลูกค้า และเข้ามาถึงพื้นที่การทำการค้าระดับล่าง ในระดับชุมชนหมู่บ้าน จนเกือบทั่วทั้งจังหวัดฉะเชิงเทราแล้วว่า ปัจจุบันนี้ผู้ค้าปลีกรายย่อยต้องรู้จักปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้ เนื่องจากสภาพการแข่งขันทางการค้าในปัจจุบันมีความหลากหลายมากกว่าในอดีต โดยเฉพาะร้านค้าที่ติดแอร์ (ติดเครื่องปรับอากาศ) ทั้งห้างฯ แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ รวมถึงโฮมโปร ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวสาขาใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ และกำลังได้รับความนิยมสูงจากลูกค้า
ผู้ค้าในท้องถิ่นนั้น จะต้องปรับปรุงร้านค้าเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ค้ารายใหญ่จากต่างชาติได้ โดยต้องรู้จักตบแต่งร้านให้ดูดีขึ้นมาบ้าง นำสินค้าที่มีคุณภาพมาวางจำหน่ายในร้าน
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ซื้อ มีการดูแลรักษาความสะอาดภายในร้าน จัดเรียงสินค้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม และมีความสะดวกในการเลือกหยิบซื้อจากลูกค้า
ผู้ค้ารายใหญ่นั้น อาจจะได้เปรียบในการได้มาของสินค้าในราคาที่ต่ำกว่า แต่ก็มีค่าบริหารจัดการภายในสูง ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบของผู้ค้ารายย่อย ที่ทำการค้ากันแบบระบบครอบครัว ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือค่าแรงงานตรงส่วนนี้จึงทำให้มีต้นทุนในด้านการจัดการที่ต่ำกว่า
ขณะที่ผู้ค้ารายใหญ่นั้นยังมีส่วนที่ได้เปรียบกว่า คือ สามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายได้ก่อนล่วงหน้า ทั้งที่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน อย่างน้อย 45-60 วัน จึงสามารถที่จะลดราคาสินค้าบางชิ้น
ที่อาจขายไม่ได้กำไรก็สามารถทำได้ เพราะรับเป็นเงินสดแต่ซื้อสินค้ามาเป็นเงินเชื่อนี่ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบทางการค้าของผู้ค้ารายใหญ่ส่วนการขยายตัวของกรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณ ที่เข้ามาใกล้นั้นสามารถช่วยได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งยังไม่มากเท่าที่ควรนัก
