พิษดินไหวในพม่าทำถนนแม่สาย-เชียงแสน แตกยาวร่วมกิโล

เชียงราย - พิษแผ่นดินไหวในพม่า ทำถนนแม่สาย-เชียงแสน เสียหายหนัก ทั้งเกิดรอยแยกกลางทุ่งนา-คลองชลประทานทรุดตัวหลายจุด ด้าน มท.1 ลงพื้นที่ตรวจผลกระทบโบราณสถาน พร้อมรับปากเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าซ่อมแซมโดยเร็ว

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีถนนสายแม่สาย-เชียงแสน ทางไปหมู่บ้านป่าซางงาม ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย เกิดรอยร้าว และได้รับความเสียหายเป็นทางยาวร่วม 1 กิโลเมตร หลังเกิดแผ่นดินไหวในพม่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 มี.ค.) นั้น ล่าสุด นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ร่วมกับ นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจความเสียหายแล้ว

ทั้งนี้ คณะดังกล่าวได้เดินทางยังวัดพระธาตุเจดีย์หลวง ในเขตเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน อ.เชียงแสน ได้ไปสำรวจความเสียหายของถนนสายดังกล่าว พบว่า เกิดรอยแยกของดินมีความลึก และกว้างมาก โดยกว้างตั้งแต่ 10-30 ซม.รวมทั้งผิวยางมะตอยของถนนแตกออกจากกันเป็นทางยาวอย่างชัดเจน รถที่สัญจรผ่านไปมาต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้ตกหลุม

จากนั้น คณะของ รมว.มหาดไทย เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุป ณ ที่ว่าการ อ.แม่สาย ซึ่งนายชวรัตน์ ระบุว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมดเพื่อจะได้ช่วยเหลือเป็นกรณีๆ ไป ในส่วนของโบราณสถานและถนนที่เสียหายก็จะได้ประสานไปยังกรมที่ดูแลได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วต่อไป

ด้าน นายทองสุข ใจภิภักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะช้าง กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้น่ากลัวมาก เพราะไม่เคยเกิดรุนแรงเช่นนี้มาก่อน โดยมีผลทำให้แผ่นดินแตกแยกหลายส่วน กรณีถนนสายดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

สำหรับพื้นที่ที่เสียหายประกอบไปด้วย ถนนเลียบลำน้ำสาย ซึ่งเป็นชายแดนไทย-พม่า มีการแตกแยกที่มากกว่าบนถนนสายหมู่บ้านป่าซางนี้เสียอีก แต่เป็นดินและอยู่เลียบชายแดนจึงไม่มีผู้พบเห็นได้โดยสะดวก

“นอกจากนี้ มีคลองชลประทานทรุดตัวลงบางส่วน และกลางทุ่งนามีการแตก ซึ่งชาวบ้านระบุว่า ช่วงที่มีแผ่นดินไหวมีน้ำกระฉอกออกจากกลางทุ่งนาด้วย หลังจากนั้น ก็มีทรายพูนออกมาตามรอยแยกกลางทุ่งนาเป็นทางยาวเช่นกัน แม้แต่อาคารของสำนักงาน อบต.เกาะช้าง หลังคาก็ได้รับความเสียหาย แต่สามารถซ่อมแซมเองได้ ส่วนถนนและคลองชลประทานได้ประสานไปยังกรมทางหลวงชนบทซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ และกรมชลประทานให้ได้รับทราบแล้ว” นายทองสุข กล่าว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศพม่าแถบเมืองเลน เมืองโก และเมืองพยาก ทางตอนเหนือของ จ.ท่าขี้เหล็ก วัดความแรงตามมาตราวัดริกเตอร์ได้ 6.7 ริกเตอร์ และยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายครั้ง จนถึงวันนี้ (25 มี.ค.)

ฝั่งพม่ามีความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่วนฝั่งไทยนอกจากความเสียหายของวัด เจดีย์ โบราณสถาน โรงพยาบาล ถนน คลองชลประทาน บ้านเรือนทั่วไปแล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตจากฝาบ้านล้มทับที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย อีก 1 ราย