xs
xsm
sm
md
lg

ขอนแก่นมั่นใจ 2 ปีก้าวสู่ฮับอินโดจีน-สสปน.ดันเป็น 1 ใน 3 เมืองใหญ่ภูมิภาคอุตฯไมซ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมบัติ  ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
ศูนย์ข่าวขอนแก่น- ผู้ว่าฯขอนแก่นมั่นใจศักยภาพประตูสู่อินโดจีน-จีนตอนใต้ ศูนย์กลางการประชุมสัมมนานานาชาติ พร้อมรองรับทุกด้าน อีก 2 ปีก้าวสู่ฮับอินโดจีน ขณะที่ สสปน. หนุนเต็มที่ ดันเป็น 1 ใน 3 เมืองใหญ่ในภูมิภาคเหมาะพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ สานต่อ โครงการ CREATIVE MICE ประชุมเมืองไทยด้วยความคิด ประเดิมกิจกรรมแรก 17 มี.ค.นี้ เปิดเสวนา จุดประกาย เติมไอเดีย เนรมิตงานไมซ์ ภายใต้แนวคิด “พลิก สร้าง แปลง เปลี่ยน” ชูศักยภาพขอนแก่นนครแห่งการประชุม สัมมนา และแสดงสินค้า

นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าจังหวัดขอนแก่นมีศักยภาพความพร้อมสำหรับตลาดประชุม สัมมนา และเป็นศูนย์กลางคมนาคมและการลงทุนของภาคอีสาน ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค ในอีก 2 ปีข้างหน้า ขอนแก่นจะก้าวเข้าสู่การเป็น “ฮับของอินโดจีน”ประตูสู่อินโดจีนและจีนตอนใต้ ตามโครงการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ที่เชื่อมระหว่าง ไทย ลาว และเวียดนาม มีอาณาเขตติดต่อกับอีก 10 จังหวัดของภาคอีสาน

ที่สำคัญขอนแก่นมีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมให้บริการด้านสาธารณสุข ที่ช่วยเสริมศักยภาพของตลาดท่องเที่ยวและตลาดไมซ์ได้เป็นอย่างดี

ด้วยศักยภาพทุกด้านของจังหวัดขอนแก่น จึงเหมาะเป็นศูนย์กลางของการประชุมสัมมนา ทั้งของภาครัฐ และเอกชน รวมไปถึงการประชุมสัมมนาในระดับโลก โดยมีศูนย์ประชุม และห้องสัมมนารองรับมากกว่า 10,000 ที่นั่ง มีศูนย์ประชุมของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน รองรับผู้เข้าร่วมสัมมนา 3,000 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่รองรับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ไม่น้อยกว่าแห่งละ 1,500 คน

สำหรับโครงการ Creative MICE ที่สสปน.ดำเนินการอยู่ จึงเป็นการขยายความเป็น Creative City ของจังหวัด ในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานราชการในพื้นที่ สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ ให้มีความเข้าใจ และเห็นถึงรูปแบบการจัดงานไมซ์อย่างสร้างสรรค์ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่นตามคอนเซ็ปต์สร้างไอเดีย คิดต่าง แบบสร้างสรรค์ เพื่อธุรกิจไมซ์โดยเฉพาะ ระยะยาวเป็นการสร้างงาน กระจายรายได้ในระดับภูมิภาคได้เป็นอย่างยั่งยืน

นายสมบัติระบุอีกว่า ปัจจุบัน จ. ขอนแก่นมีจำนวนผู้เดินทางมาเยือนประมาณ 2 ล้านคนต่อปี ไม่นับรวมคนที่เดินทางเช้ามาเย็นกลับ ธุรกิจการประชุมและสัมมนามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งห้องพัก โรงแรม และร้านอาหารขยายตัวตามไป โดยยอดการเข้าพักของจังหวัดอยู่ระดับร้อยละ 70 จากห้องพักที่มีประมาณ 3,000 ห้อง โดยจำนวนห้องพักที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเพียงพอต่อการรองรับปริมาณการเข้าพักได้อีกอย่างน้อย 5 ปี

ด้านนายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า “สสปน. ได้ดำเนินการเชิงรุกในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศจึงได้เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย Domestic MICE มั่นใจเมืองไทยพร้อม”เพื่อกระตุ้นตลาดการประชุม สัมมนาในประเทศไทยให้มีการเติบโต และเป็นกลไกในการสร้างระบบเศรษฐกิจ

หนึ่งในกิจกรรมหลักภายใต้โครงการดังกล่าวคือ “กิจกรรม CREATIVE MICE ประชุมเมืองไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์” ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

โดยมีเป้าหมาย เพื่อเผยแพร่ความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ให้เป็นที่รู้จักผ่านการจัดงานอีเวนท์ในเมืองที่มีศักยภาพด้านการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าในภูมิภาคต่างๆ เมื่อปีที่ผ่านมา ทางสสปน.ได้เดินสายจัดงานในจังหวัด กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สงขลา และชลบุรี

สำหรับปีนี้ได้ขยายโครงการไปอีก 2 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคอีสาน และได้คัดเลือกให้จ.ขอนแก่นเป็น 1 ใน 3 เมืองที่มีศักยภาพด้านธุรกิจไมซ์ และอีก 2 จังหวัดคือ จ.อุบลราชธานี และจ.พิษณุโลก

ทั้งนี้ สสปน. ต้องการเสนอมุมมองการจัดงานไมซ์ให้มีความพิเศษ แตกต่าง และสร้างจุดขายในแต่ละพื้นที่ ภายใต้แนวคิด พลิก สร้าง แปลง เปลี่ยน โดยได้เลือก ศาลาอาคารจตุรมุข มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข) ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถรองรับคนได้หลายพันคน สำหรับดำเนินกิจกรรมต่างๆของชุมชน มาเนรมิต เติมแต่งความเป็นครีเอทีฟ สู่การจัดงานแบบไมซ์ ภายใต้ความเป็นเอกลักษณ์ของภาคอีสาน และชูจุดขาย “ขอนแก่น..ประตูการค้าเชื่อมต่ออีสานบนกับกรุงเทพฯ

เวทีเสวนาระดมความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดพลิกสร้างแปลงเปลี่ยนนั้นจะจัดขึ้นในจังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรก วันศุกร์ที่ 17 มี.ค.นี้ที่อาคารจัตุรมุข มข. หลังจากนั้นจะไปจัดที่อุบลราชธานีและพิษณุโลกเพื่อให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าจากการจัดงานทั้ง 3 จังหวัด จะมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 300 คน

การสื่อสารภายใต้โครงการ จะสามารถเข้าถึงประชาชนไม่ต่ำกว่า 2,000,000 คน ทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์ โดยเน้น กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ในพื้นที่จัดงาน และภูมิภาคใกล้เคียงเป็นหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น