เลย -พ่อเมืองเลย ตรวจพื้นที่ก่อสร้างฝายกั้นน้ำช่วงหน้าแล้ง เผย 14 อำเภอทั้งจังหวัดเลยประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว ส่วนการแก้ปัญหาภัยแล้ง ต้องบูรณาการแผนร่วมกันทั้งจังหวัดและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ชี้ระดับน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีมากกว่าปีที่แล้ว มั่นใจแก้ปัญหาภัยแล้งปีนี้ได้แน่
นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมคณะลงพื้นที่บ้านท่าบุ่ง และบ้านปากหมาก ตำบลศรีสองรัก อ.เมืองเลย เพื่อตรวจสอบติดตามโครงการแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่กำลังมีการก่อสร้างฝายชะลอน้ำเป็นระยะ ตามแม่น้ำเลย แม่น้ำสายหลักของจังหวัด ซึ่งอบต.ศรีสองรัก ได้สนับสนุนงบประมาณ 30,000 บาท เพื่อสร้างฝายชะลอน้ำแบบชั่วคราว
ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกรอกทราย ใส่กระสอบทำเป็นคันกั้นน้ำ บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนกักเก็บน้ำไว้สำหรับการปลูกพืชฤดูแล้ง เช่น ถั่วเหลือง และข้าวโพด รวมถึงเพิ่มระดับน้ำสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ที่กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ขณะนี้ทั้ง 14 อำเภอของจังหวัดเลย ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว การแก้ปัญหาต้องบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซ่อมแซมฝายชะลอน้ำที่มีอยู่เดิม และก่อสร้างใหม่เพิ่มเติม โดยใช้งบประมาณทางจังหวัดเลย , อบจ.เลย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในสนับสนุน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่ปลูกถั่วเหลือง ซึ่งทั้งจังหวัดมีพื้นที่ปลูกรวมกัน 7,000 ไร่ และข้าวโพดอีก30,000ไร่
อย่างไรก็ตาม หากเทียบในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ระดับน้ำตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในจังหวัดเลยทั้ง 13 อ่าง ปีนี้ปริมาณน้ำมีมากกว่าร้อยละ 50 คาดว่า จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ได้อย่างดี
นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมคณะลงพื้นที่บ้านท่าบุ่ง และบ้านปากหมาก ตำบลศรีสองรัก อ.เมืองเลย เพื่อตรวจสอบติดตามโครงการแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่กำลังมีการก่อสร้างฝายชะลอน้ำเป็นระยะ ตามแม่น้ำเลย แม่น้ำสายหลักของจังหวัด ซึ่งอบต.ศรีสองรัก ได้สนับสนุนงบประมาณ 30,000 บาท เพื่อสร้างฝายชะลอน้ำแบบชั่วคราว
ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกรอกทราย ใส่กระสอบทำเป็นคันกั้นน้ำ บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนกักเก็บน้ำไว้สำหรับการปลูกพืชฤดูแล้ง เช่น ถั่วเหลือง และข้าวโพด รวมถึงเพิ่มระดับน้ำสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ที่กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ขณะนี้ทั้ง 14 อำเภอของจังหวัดเลย ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว การแก้ปัญหาต้องบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซ่อมแซมฝายชะลอน้ำที่มีอยู่เดิม และก่อสร้างใหม่เพิ่มเติม โดยใช้งบประมาณทางจังหวัดเลย , อบจ.เลย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในสนับสนุน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่ปลูกถั่วเหลือง ซึ่งทั้งจังหวัดมีพื้นที่ปลูกรวมกัน 7,000 ไร่ และข้าวโพดอีก30,000ไร่
อย่างไรก็ตาม หากเทียบในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ระดับน้ำตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในจังหวัดเลยทั้ง 13 อ่าง ปีนี้ปริมาณน้ำมีมากกว่าร้อยละ 50 คาดว่า จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ได้อย่างดี