ศรีสะเกษ - กำนัน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ร้องรัฐบาลไทยจี้เขมร รื้อวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ-ถอนทหารพ้น “เขาพระวิหาร” แผ่นดินไทย ก่อนเจรจาประชุม “เจบีซี” ปลาย มี.ค.ที่อินโดนีเซีย เตือนจิ้งจอกกัมพูชาไว้ใจไม่ได้ เผย ชาวบ้านสืบค้นข้อมูลรุ่นปู่ย่า พบบริเวณวัดแก้วฯ อยู่ในเขตแดนไทย ชัดเจน ระบุ คนชายแดนเสียใจรัฐบาลมาร์ค บอก “วัดแก้วฯ” เป็นพื้นที่ทับซ้อน
วันนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาตกลงที่จะไปประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ที่ประเทศอินโดนีเซียในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ ตนเห็นว่า เป็นการดีที่รัฐบาลกัมพูชาจะร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่สามารถที่จะต้านความรู้สึกของสังคมโลก โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียนที่ต้องการให้เกิดการสงบสุขที่บริเวณเขาพระวิหารได้
อย่างไรก็ตาม กัมพูชาก็คือกัมพูชา ไม่มีความแน่นอน พูดอะไรไว้ใจไม่ได้ แม้มีการตกลงหยุดยิงกันแล้ว ยังมีการยิงถล่มปืนใหญ่ใส่ประชาชนชาวไทย ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา
ขอฝากไปถึงรัฐบาลไทยว่า หากจะมีการเจรจาในการประชุมร่วมเจบีซี ที่ประเทศอินโดนีเซีย ก็ควรให้รัฐบาลกัมพูชารื้อถอนวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ รวมทั้งกำลังทหารออกไปจากพื้นที่รอบเขาพระวิหารเสียก่อน เนื่องจากชาวบ้าน 7 ตำบลในเขตชายแดนไทย ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เห็นร่วมกันว่าจากการสืบค้นข้อมูลรุ่นปู่รุ่นย่าพบว่าบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระเป็นพื้นที่อยู่ในเขตแดนไทย
นอกจากนี้ พวกเราเสียใจมาก ที่รัฐบาลไทยบอกว่า บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระเป็นพื้นที่ทับซ้อน หรือพื้นที่อ้างสิทธิ์ ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนแต่อย่างใดแต่เป็นเขตแดนไทย ทั้งนี้ เนื่องจากภูมิศาสตร์และธรรมชาติได้แบ่งปันไว้อย่างชัดเจน โดยใช้เทือกเขาพนมดงรักเป็นเส้นแบ่งเขตแดนว่า พื้นที่บริเวณใดเป็นของชาติไทยซึ่งมีสันปันน้ำเป็นหลักในการปักปัน
“การที่รัฐบาลกัมพูชามีความก้าวร้าวใส่รัฐบาลไทยและประชาชนไทยในขณะนี้ เนื่องจากอยากได้พื้นเพเดิมที่เคยเข้ามาประชิดพื้นที่ของไทย โดยอาจหวังประโยชน์ในส่วนนี้และส่วนอื่นๆ ซึ่งฝ่ายไทยมีความโอบอ้อมอารีตลอดเวลา จึงทำให้กัมพูชาเหิมเกริมมาโดยตลอดเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามไม่อาจหลีกหนีพ้นกฎธรรมชาติได้ เพราะเทือกเขาพนมดงรักเป็นเส้นแบ่งปันเขตแดนให้กับไทยและกัมพูชาอยู่แล้ว” นายวีรยุทธ กล่าว