พระนครศรีอยุธยา - แม่นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนดังของอำเภอวังน้อย ถูกเพื่อนนักเรียนแสบโทร.หลอกเข้าบ้านพาพวก 10 คนรุมโทรมข่มขืน ไม่หนำใจตกเย็น ซิ่งมอไซค์ถอดเสื้อควงปืน ตะโกนเยาะเย้ยไม่กลัวตำรวจ ด้าน ตร.ยันไม่นิ่งนอนใจ เผยจับได้แล้ว 1 แต่ยังให้การปฏิเสธ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (9 มี.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา นางชบา (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาวบ้านใน ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย น้องหวาน (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังของอำเภอวังน้อย และน้องหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี หลานสาว เข้าพบ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เพชรกำเนิด รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.โสภณ ตรีสุคนธ์ ผกก.สภ.วังน้อย พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รองผกก.สส.สภ.วังน้อ และ ร.ต.ต.เนติภูมิ โคตรศรี พนักงานสอบสวน เพื่อให้ติดตามคดีกลุ่มวัยรุ่นรวม 10 คนรุมโทรม น้องน้ำหวาน เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้แจ้งความร้องทกข์ไว้ที่ สภ.วังน้อย
นางปวีณา เปิดเผยว่า นางชบา (นามสมมติ) แม่น้องน้ำหวาน ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือกับทางมูลนิธิ กรณีน้องน้ำหวาน ลูกสาว ถูกเพื่อนนักเรียนข่มขืนและเพื่อนมารุมโทรมรวม 10 คน และยังมีพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่สร้างความหวาดกลัวให้กับครอบครัวของน้องน้ำหวาน จึงได้พาผู้เสียหายเข้ามาติดตามคดีที่โรงพักวังน้อย เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเรืองคดีว่ามีการติดตามจับกุมคนร้ายเป็นอย่างไร เพราะผู้เสียหายอยู่ในความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
น้องน้ำหวาน ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 6 มีนาคม 2554 ได้ขับรถ จยย.ไปกับน้องหนึ่ง (นามสมมติ) ญาติสนิทไปซื้อของที่ตลาดปากซอยหน้าบ้าน นายป๊อป เพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ได้โทรศัพท์เข้ามาหาอ้างว่ามีเรื่องด่วนจะคุยด้วย จึงหลงเชื่อไปหาที่หน้าบ้าน พบนายป๊อป ได้เข้ามาพยายามชักชวนเข้าไปในบ้าน ตนไม่ยอมและขัดขืน แต่ได้ถูกนายป๊อป ใช้กำลังฉุดดึงเข้าไปในบ้าน ได้พยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครมา ส่วน น้องหนึ่ง ญาติที่มาด้วยได้วิ่งหนีกลับบ้านไปแล้ว
จากนั้น นายป๊อป ได้ทำการปลุกปล้ำใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และยังมีการนัดแนะช่วยเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน มาเรียงคิวข่มขืนอีก 9 คน ทราบมีชื่อ นายบิ๊ก โก้ ปอน ตั๋น เจมส์ ล๊อค เบ็น ผึ้ง และ นายศิริพงษ์ หรือ ปืน ผ่องโต อายุ 19 ปี ขาโจ๋ในซอย ระหว่างนั้น น้องหนึ่ง ที่ไปด้วยไปแจ้งให้พี่ชายทราบบุกเข้ามาช่วย นำเรื่องไปบอกกับแม่ จนมีการแจ้งความขึ้นดังกล่าว
นางชบา (นามสมมติ) แม่ของน้องน้ำหวาน เปิดเผยอีกว่า หลังจากแจ้งความไว้ที่ สภ.วังน้อย แล้ว กลับเข้าบ้าน พบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุยังได้แสดงความป่าเถื่อน มีพฤติกรรมก้าวร้าวเกินเด็ก ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย โดยการถอดเสื้อขับขี่ จยย.มีปืนเป็นอาวุธ ขับบิดรถรอบบ้านหลายรอบ และยังร้องตะโกนเยาะเย้ยด้วยความสะใจ แถมยังตะโกนใส่ว่า ไม่กลัวตำรวจจับหรอก จับไปเดี๋ยวก็ปล่อย ทำให้ตนเองและครอบครัวจะไม่ปลอดภัย ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายและคดีล่าช้า จึงได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ซี่งก็ได้รับความกรุณาเป็นอย่างดีติดตามคดีทันที
พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เพชรเนิด รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำคดีล่าช้าแต่อย่างไร ทันทีที่พนักงานสอบสวนรับแจ้งความ ทำการสอบสวนได้ออกติดตามจับกุมคนร้ายทันที ระหว่างที่ตำรวจเข้าขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ ได้นำกำลังตำรวจเฝ้าประกบกลุ่มวัยโจ๋ทั้งหมด ทันทีที่ศาลออกหมายจับ ได้บุกเข้าทำการจับกุมทันทีทั้ง 10 คน
ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันรุมโทรมหญิงและข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี คุมสอบสวนทำประวัติเพื่อส่งสถานพินิจฯ และจากการสอบสวนในเบื้องต้นนายศิริพงษ์ หรือ ปืน ผ่องโต หนึ่งในผู้ต้องหาอายุ 19 ปี ร่วมในเหตุการณ์ ปฏิเสธอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว วันเกิดเหตุเข้าไปหาเพื่อนในบ้านหลังดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อควบคุมตัวไว้สอบสวนดำเนินดคีต่อไป