พิษณุโลก - รอง ผบก.พิษณุโลก สั่งเช็กประวัติลูกหาบในพื้นที่ ชี้ ชำนาญแบกเป้ขึ้นภูสอยดาวเอี่ยวขนยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด-ไอซ์ อีกกว่า 100 โล เข้าพักที่ “ชาติกระการ” หรือไม่ พร้อมสั่งสอบผู้ต้องสงสัย 1 ราย ต้องสงสัยร่วมขบวนลำเลียงยาบ้า ขณะที่สุนัขดมกลิ่นไล่หายานรกได้เพิ่มอีก
บ่ายวันนี้ (9 มี.ค.) ที่กองร้อย ตชด.315 อ.ชาติตระการ พ.ต.อ.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก, พ.ต.อ.เผชิญ ตันศิริ ผู้กำกับการ สภ.ชาติตระการ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพภาคที่ 3 บินสำรวจเส้นทางลำเลียงยาเสพติด เพื่อพิสูจน์ทราบว่าขบวนการขนยาเสพติด ลำเลียงผ่านมาทางเส้นทางใด เนื่องจากการตรวจพบยาบ้า และไอซ์ล็อตใหญ่ครั้งนี้ คาดว่า จะเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ จากภาคเหนือลงสู่ภาคอีสานและภาคกลาง
โดย พ.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยหลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์และลงตรวจจุดเกิดเหตุ ว่า สุนัขสงครามออกแกะรอยจนพบยาเสพติดเพิ่มอีก 3 มัด หรือ 6,000 เม็ด จากช่วงเช้าวันเดียวกันยึดได้ 9 มัดจำนวน 18,000 เม็ด และไอซ์ 22 กิโลกรัม ทำให้ยอดรวมยาเสพติดเป็น 2,646,000 เม็ด-ไอซ์ 124 กก.
สำหรับเส้นทางลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่นั้น พบว่า อยู่ในเขตรอยต่อ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ และ อ.ชาติตระการ จึงต้องสั่งให้ ตชด.316 ไปทำประวัติลูกหาบจำนวน 33 คน เนื่องจากลูกหาบถือเป็นอาชีพที่แบกเป้ หรือแบกของขึ้นภูสอยดาว อ.ชาติตระการ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเขตติดต่อพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ที่มีความชำนาญในเดินทางขึ้นภูสอยดาว โดยใช้ระยะเวลาเดินเท้า 3-5 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ได้สั่งทำประวัติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหมู่บ้านย้อนหลังอีกด้วย
พ.ต.อ.เฉลิม เชื่อมั่นว่า ขบวนการขนยาเสกติดครั้งนี้เป็นขบวนการใหญ่ทำมานาน มีความชำนาญในพื้นที่เป็นอย่างดี ล่าสุด สามารถติดตามผู้ต้องสงสัย คือ นายวัลลภ ไม่ทราบนามสกุลมาสอบ คาดว่าพัวพันกับยาเสพติดล็อตนี้ด้วย
สำหรับตัวยานั้น ผลจาการตรวจสอบทราบว่า ผลิตมาจากกลุ่มว้า นำเข้าทางด้าน จ.เชียงราย มาที่ อ.นาน้อย จ.น่าน ผ่านบ้านบ่อเบี้ย จ.อุตรดิตถ์-บ้านโคก-บ้านห้วยมุ่น-บ้านรักไทย จ.พิษณุโลก โดยเดินลัดสันเขาทางด้านฝั่งลาว มาแวะพักที่ชาติตระการ จนถูกจับได้ดังกล่าว
