ศูนย์ข่าวศรีราชา - ททท. พัทยา จับมือร่วมสนามกอล์ฟในพื้นที่เปิดตัวโครงการ “ก๊วนติดล้อ” หวังส่งเสริมผู้พิการที่ชื่นชอบในกีฬากอล์ฟให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและเล่นกอล์ฟในเมืองพัทยามากขึ้น หลังพบศักยภาพสนามที่มีอยู่เกือบ 20 แห่ง มีสภาพสนามและสิ่งอำนวยความสะดวกในการรองรับผู้พิการเป็นอย่างดี ขณะที่โรงแรมและสถานประกอบการ รวมทั้งสถานที่ต่างๆ ในเมืองพัทยา ได้มีการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับคนพิการอย่างพร้อมสรรพ
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา เผยถึงการจัดโครงการ“ก๊วนติดล้อ” ซึ่ง ททท.พัทยา ได้ร่วมกับสนามกอล์ฟในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้พิการที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างชาติ หันมาออกกำลังกาย และเปิดตัวสู่โลกภายนอกด้วยการเล่นกีฬากอล์ฟในสนามต่างๆ ที่มีอยู่ในจังหวัดชลบุรีเกือบ 20 แห่ง
โดยสนามเหล่านี้ล้วนมีสภาพสนามที่พร้อมรองรับผู้พิการ ที่ต้องนั่งรถวิลแชร์ในการออกรอบ และไดร์ฟกอล์ฟ และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของเมืองพัทยาสู่การเป็นFriendly City สำหรับผู้พิการให้แพร่หลายมากขึ้น
โดยโครงการ “ก๊วนติดล้อ” นอกจากจะเพิ่มรายได้ทางการท่องเที่ยวให้กับเมืองพัทยาได้อีกทางหนึ่งแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้พิการชาวต่างชาติที่ได้รับการดูแลจากประเทศบ้านเกิดเป็นอย่างดีเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเมืองพัทยา ได้จัดสรรงบประ มาณในการพัฒนาทางลาดสำหรับคนพิการ ห้องน้ำ ขณะที่โรงแรมหลายแห่งก็ได้จัดเตรียมห้องพักสำหรับรองรับคนพิการไว้พร้อมแล้ว
ที่สำคัญโครงการดังกล่าวยังจะเป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลหันมาให้ความสำคัญในการดูแลความเป็นอยู่ และสิทธิต่างๆ ของคนพิการชาวไทยเพื่อให้ได้มีโอกาสเปิดตัวสู่โลกภายนอกทัดเทียมกับคนพิการในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
“ในแต่ละปีคนพิการต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยามีจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเดินทางมาท่องเที่ยวกันเอง โดยโครงการก๊วนติดล้อ เป็นโครงการนำร่อง ที่ ททท.พัทยา จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คนพิการทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้ออกมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป และในครั้งนี้เราได้เชิญ Mr.Jens Napssul ซึ่งเป็นผู้พิการชาวเยอรมัน ที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาและเกิดอุบัติเหตุเมื่อ6-7 ปีก่อน ซึ่งบุคคลผู้นี้มีความชื่นชอบในกีฬากอล์ฟ และเมื่อต้องกลายเป็นผู้พิการก็ไม่เคยปิดโอกาสตัวเองและพยายามที่จะใช้ชีวิตตามปกติจนประสบความสำเร็จ ซึ่งในอนาคตเราคาดว่าจะมีทัวร์กอล์ฟคนพิการเข้ามาในพื้นที่เมืองพัทยามากขึ้น”
นายนิติ ยังเผยถึงการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในปี 2553 ที่ผ่านมาว่าเติบโตขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ซึ่งเป็นการเติบโตของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการหนีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ สู่ต่างจังหวัด และในปีนี้แนวโน้มการท่องเที่ยวก็จะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศแถบตะวันออกกลาง จึงทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวรัสเซีย เปลี่ยนโปรแกรมท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยและประเทศแถบเอเชียมากขึ้น แต่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงก็คือราคาน้ำมันที่อาจพุ่งถึง 150 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล ซึ่งก็อาจมีผลต่อราคาตั๋วเครื่องบินที่อาจทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางน้อยลง
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา เผยถึงการจัดโครงการ“ก๊วนติดล้อ” ซึ่ง ททท.พัทยา ได้ร่วมกับสนามกอล์ฟในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้พิการที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างชาติ หันมาออกกำลังกาย และเปิดตัวสู่โลกภายนอกด้วยการเล่นกีฬากอล์ฟในสนามต่างๆ ที่มีอยู่ในจังหวัดชลบุรีเกือบ 20 แห่ง
โดยสนามเหล่านี้ล้วนมีสภาพสนามที่พร้อมรองรับผู้พิการ ที่ต้องนั่งรถวิลแชร์ในการออกรอบ และไดร์ฟกอล์ฟ และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของเมืองพัทยาสู่การเป็นFriendly City สำหรับผู้พิการให้แพร่หลายมากขึ้น
โดยโครงการ “ก๊วนติดล้อ” นอกจากจะเพิ่มรายได้ทางการท่องเที่ยวให้กับเมืองพัทยาได้อีกทางหนึ่งแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้พิการชาวต่างชาติที่ได้รับการดูแลจากประเทศบ้านเกิดเป็นอย่างดีเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเมืองพัทยา ได้จัดสรรงบประ มาณในการพัฒนาทางลาดสำหรับคนพิการ ห้องน้ำ ขณะที่โรงแรมหลายแห่งก็ได้จัดเตรียมห้องพักสำหรับรองรับคนพิการไว้พร้อมแล้ว
ที่สำคัญโครงการดังกล่าวยังจะเป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลหันมาให้ความสำคัญในการดูแลความเป็นอยู่ และสิทธิต่างๆ ของคนพิการชาวไทยเพื่อให้ได้มีโอกาสเปิดตัวสู่โลกภายนอกทัดเทียมกับคนพิการในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
“ในแต่ละปีคนพิการต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยามีจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเดินทางมาท่องเที่ยวกันเอง โดยโครงการก๊วนติดล้อ เป็นโครงการนำร่อง ที่ ททท.พัทยา จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คนพิการทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้ออกมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป และในครั้งนี้เราได้เชิญ Mr.Jens Napssul ซึ่งเป็นผู้พิการชาวเยอรมัน ที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาและเกิดอุบัติเหตุเมื่อ6-7 ปีก่อน ซึ่งบุคคลผู้นี้มีความชื่นชอบในกีฬากอล์ฟ และเมื่อต้องกลายเป็นผู้พิการก็ไม่เคยปิดโอกาสตัวเองและพยายามที่จะใช้ชีวิตตามปกติจนประสบความสำเร็จ ซึ่งในอนาคตเราคาดว่าจะมีทัวร์กอล์ฟคนพิการเข้ามาในพื้นที่เมืองพัทยามากขึ้น”
นายนิติ ยังเผยถึงการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในปี 2553 ที่ผ่านมาว่าเติบโตขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ซึ่งเป็นการเติบโตของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการหนีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ สู่ต่างจังหวัด และในปีนี้แนวโน้มการท่องเที่ยวก็จะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศแถบตะวันออกกลาง จึงทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวรัสเซีย เปลี่ยนโปรแกรมท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยและประเทศแถบเอเชียมากขึ้น แต่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงก็คือราคาน้ำมันที่อาจพุ่งถึง 150 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล ซึ่งก็อาจมีผลต่อราคาตั๋วเครื่องบินที่อาจทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางน้อยลง
