บุรีรัมย์ - ภัยแล้งคุกคามบุรีรัมย์หนัก แม่น้ำมูลตื้นเขินแห้งขอดวิกฤตสุดในรอบ 40 ปี กระทบ 2หมู่บ้านริมมูลไม่มีน้ำผลิตประปาต้องซื้อน้ำกินน้ำใช้นานร่วมเดือน ขณะชาวบ้านเชื่อเกิดจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนไป และเกษตรกรสูบน้ำทำนาปรังมากขึ้นจากโครงการประกันรายได้ของรัฐบาล วอนรัฐเร่งสำรวจสร้างเขื่อนแก้ปัญหาแล้งซ้ำซากและทวีความรุนแรงมากขึ้น
วันนี้ ( 8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งจ.บุรีรัมย์เริ่มรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอดเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา และเข้าขั้นวิกฤตสุดในรอบ40 ปี ส่งผลกระทบกับระบบผลิตน้ำประปา 2 หมู่บ้าน ติดริมมูล คือ บ้านท่าเรือ และ บ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง อ.สตึก ไม่มีน้ำในการทำประปาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานานกว่า 1 เดือน อีกทั้งน้ำมีสภาพเน่าเหม็นเนื่องจากตื้นเขินไม่ไหลเวียน
จากปัญหาดังกล่าวชาวบ้านจึงได้เร่งของบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำมาใช้ในการขุดลอกพื้นทรายลึกลงให้น้ำไหลซึมออกมา ก่อนสูบน้ำขึ้นมาทำประปา เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคในหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านบอกว่า น้ำในลำน้ำมูลได้เริ่มแห้งและตื้นเขินมาตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา จากปกติทุกปีน้ำจะเริ่มแห้งประมาณปลายเดือนมี.ค. หรือต้นเดือนเม.ย.
ทั้งเชื่อว่าสาเหตุที่น้ำในลำน้ำมูลประสบปัญหาแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้อาจเนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับปีนี้ได้มีเกษตรกรใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำจากลำน้ำมูลขึ้นไปใช้ในการทำนาปรังมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลมีโครงการประกันรายได้
เกษตรกรเป็นสิ่งจูงใจให้มีการทำนาปรังเป็นจำนวนมาก จนทำให้น้ำในลำน้ำมูลเกิดวิกฤตแห้งขอด จึงขอให้ทางภาครัฐ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาสำรวจสร้างเขื่อนหรือฝายน้ำล้นเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวให้กับชาวบ้านและเกษตรกร ได้มีน้ำกินน้ำใช้และน้ำในการทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี
ด้านนายโสภา มิตรเจริญ อายุ 50 ปี ผู้ดูแลระบบประปาหมู่บ้านบ้านท่าเรือ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เดือนที่ผ่านมาไม่สามารถสูบน้ำจากลำน้ำมูลมาทำประปาได้ เนื่องจากน้ำมีสภาพแห้งขอดและตื้นเขินอยู่ในขั้นวิกฤต ชาวบ้านได้ของบประมาณฉุกเฉิน จากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าม่วงมาทำการขุดลอก เพื่อให้น้ำไหลซึมออกมากักเก็บในบ่อก่อนที่จะสูบขึ้นมาทำน้ำประปาหมู่บ้าน โดยในปีนี้ได้ขุดลอกไปแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งสถานการณ์น้ำมูลที่ตื้นเขินดังกล่าวไม่เคยพบมาก่อนในรอบ 40 ปี
ทางด้านนายบรรพต ฉิมมานิตย์ อายุ 49 ปี ชาวบ้านบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก บอกว่า ปีนี้น้ำมูลได้ตื้นเขินแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ไม่มีน้ำทำประปา สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านบ้านท่าเรือน กว่า 200 ครัวเรือน ไม่มีน้ำใช้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บางครัวเรือนที่น้ำในโอ่งหรือภาชนะกักเก็บที่รองน้ำฝนไว้ได้หมดลง ต้องซื้อน้ำจากพ่อค้ารถเร่เพื่อใช้บริโภคบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าไปก่อน ส่วนน้ำอุปโภคหรือน้ำใช้ชาวบ้านต้องนำรถเข็นไปตักน้ำในลำน้ำมูลที่ตื้นเขิน และมีกลิ่นเหม็น มาอาบแก้ไขปัญหาชั่วคราว เพราะน้ำลำคลองหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ก็เหือดแห้งหมดแล้ว
นายบรรพต กล่าวอีกว่า ส่วนน้ำในบ่อที่ทาง อบต.มาทำการขุดลอกเพื่อใช้ทำประปา ก็คาดว่าจะใช้ได้อีกไม่เกิน 1 - 2 เดือนเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้ทางภาครัฐได้เร่งเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน ส่วนในระยะยาวก็อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสำรวจสร้างเขื่อนหรือฝายกักเก็บน้ำ เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี เพราะชาวบ้านต้องเผชิญกับปัญหาแล้งซ้ำซากเช่นนี้เป็นประจำทุกปี และสถานการณ์ก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ