จันทบุรี - สถานการณ์น้ำในเขื่อน อ่างเก็บกักน้ำ และฝายในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี หลังพบปริมาณน้ำลดลงกว่าครึ่งในช่วงฤดูแล้ง ขณะที่การปฏิบัติการการบินทำฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่เป้า หมายประสบความสำเร็จหลังฝนตกครอบคลุมในหลายพื้นที่
วันนี้ (8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจปริมาณน้ำในเขื่อน อ่างเก็บกักน้ำ และฝายต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่า เขื่อนพลวงมีปริมาณน้ำเหลืออยู่ที่ 44.980 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนคีรีธาร มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ที่ 50.612 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนฝายยางระดับน้ำอยู่ที่ 3.25 เมตร จากเดิม 4.20 เมตร และฝายท่าระม้าระดับน้ำอยู่ที่ 5.25 เมตร จากเดิม 5 เมตร
โดยถือว่าปริมาณน้ำในตัวเมืองจันทบุรี ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และทางจังหวัดยังไม่ได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติฉุกเฉินภัย แล้ง ทั้งนี้เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำที่เพียงพอสามาถรับในช่วงฤดูแล้งอย่างไม่มีปัญหา
ขณะที่พื้นที่อื่น เช่น อำเภอมะขาม สอยดาว โป่งน้ำร้อน เขาคิชฌกูฎ นายายอาม ขลุงท่าใหม่ และแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นพื้นที่ที่ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 8 อำเภอ นี้เป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งยังน่าเป็นหวงเนื่องจาก ปริมาณน้ำในเขื่อน และอ่างเก็บกักน้ำลดลงกว่าครึ่ง ทำให้ทางชุดปฏิบัติการการบินทำฝนหลวงจันทบุรี ได้มีการนำเครื่องบิน 3 ลำ ทำการขึ้นบินทุกวัน เพื่อทำการโปรยสารฝนหลวงเพื่อให้ฝนตกลงมาช่วยเหลือเกษตรกรและเติมปริมาณน้ำลงในเขื่อน อ่างเก็บกักน้ำ และฝายต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
นางสาววาสนา วงษ์รัตน์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ยังไม่สามารถขึ้นทำการบินโปรยสารฝนหลวงได้เนื่องจากท้องฟ้าในวันนี้ ไม่เปิดและอากาศไม่เอื้ออำนวยเพราะท้องฟ้ามืดครึมและมีฝนตกลงมาเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ได้มีการขึ้นบินในพื้นที่เป้าหมาย คือ พื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน สอยดาว มะขาม จังหวัดจันทบุรี และพื้นที่อำเภอบ่อไร่ และอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ปรากฏว่าฝนได้ตกลงในพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดทั้ง 2 จังหวัด รวมถึงวันก่อนๆที่ได้มีการบินทำการโปรยสารฝนหลวงด้วยซึ่งพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 8 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ทางชุดปฏิบัติการการทำฝนหลวงจันทบุรีตั้งเป้าหมายที่จะต้องทำให้ฝนตกครอบ คลุมพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งทั้ง 8 อำเภอให้ได้ทั้งหมด ก่อนจะมีการปิดฐานปฏิบัติการฝนหลวงในเดือนพฤษภาคม หรือ เดือนมิถุนายน 2554 นี้ต่อไป
สำหรับในวันนี้ในช่วงบ่ายพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมีฝนตกลงมาในเกือบทุกพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้ที่ 17.1 มิลลิเมตร ทำให้ในหลายพื้นที่สร้างความชุ่มชื่นให้กับพื้นที่การเกษตรทั้งนี้เป็นเพราะ เกิดจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนพัดมาปะทะกับความร้อนในภาคตะวันออกทำให้ เกิดกลุ่มฝนใหญ่ มีพื้นที่ที่มีฝนตก คือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ในส่วนนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังพายุและลมกระโชกแรงในระยะนี้ รวมทั้งขอให้ประชาชนได้มีการติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่องด้วย
วันนี้ (8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจปริมาณน้ำในเขื่อน อ่างเก็บกักน้ำ และฝายต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่า เขื่อนพลวงมีปริมาณน้ำเหลืออยู่ที่ 44.980 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนคีรีธาร มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ที่ 50.612 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนฝายยางระดับน้ำอยู่ที่ 3.25 เมตร จากเดิม 4.20 เมตร และฝายท่าระม้าระดับน้ำอยู่ที่ 5.25 เมตร จากเดิม 5 เมตร
โดยถือว่าปริมาณน้ำในตัวเมืองจันทบุรี ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และทางจังหวัดยังไม่ได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติฉุกเฉินภัย แล้ง ทั้งนี้เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำที่เพียงพอสามาถรับในช่วงฤดูแล้งอย่างไม่มีปัญหา
ขณะที่พื้นที่อื่น เช่น อำเภอมะขาม สอยดาว โป่งน้ำร้อน เขาคิชฌกูฎ นายายอาม ขลุงท่าใหม่ และแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นพื้นที่ที่ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 8 อำเภอ นี้เป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งยังน่าเป็นหวงเนื่องจาก ปริมาณน้ำในเขื่อน และอ่างเก็บกักน้ำลดลงกว่าครึ่ง ทำให้ทางชุดปฏิบัติการการบินทำฝนหลวงจันทบุรี ได้มีการนำเครื่องบิน 3 ลำ ทำการขึ้นบินทุกวัน เพื่อทำการโปรยสารฝนหลวงเพื่อให้ฝนตกลงมาช่วยเหลือเกษตรกรและเติมปริมาณน้ำลงในเขื่อน อ่างเก็บกักน้ำ และฝายต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
นางสาววาสนา วงษ์รัตน์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ยังไม่สามารถขึ้นทำการบินโปรยสารฝนหลวงได้เนื่องจากท้องฟ้าในวันนี้ ไม่เปิดและอากาศไม่เอื้ออำนวยเพราะท้องฟ้ามืดครึมและมีฝนตกลงมาเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ได้มีการขึ้นบินในพื้นที่เป้าหมาย คือ พื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน สอยดาว มะขาม จังหวัดจันทบุรี และพื้นที่อำเภอบ่อไร่ และอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ปรากฏว่าฝนได้ตกลงในพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดทั้ง 2 จังหวัด รวมถึงวันก่อนๆที่ได้มีการบินทำการโปรยสารฝนหลวงด้วยซึ่งพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 8 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ทางชุดปฏิบัติการการทำฝนหลวงจันทบุรีตั้งเป้าหมายที่จะต้องทำให้ฝนตกครอบ คลุมพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งทั้ง 8 อำเภอให้ได้ทั้งหมด ก่อนจะมีการปิดฐานปฏิบัติการฝนหลวงในเดือนพฤษภาคม หรือ เดือนมิถุนายน 2554 นี้ต่อไป
สำหรับในวันนี้ในช่วงบ่ายพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมีฝนตกลงมาในเกือบทุกพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้ที่ 17.1 มิลลิเมตร ทำให้ในหลายพื้นที่สร้างความชุ่มชื่นให้กับพื้นที่การเกษตรทั้งนี้เป็นเพราะ เกิดจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนพัดมาปะทะกับความร้อนในภาคตะวันออกทำให้ เกิดกลุ่มฝนใหญ่ มีพื้นที่ที่มีฝนตก คือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ในส่วนนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังพายุและลมกระโชกแรงในระยะนี้ รวมทั้งขอให้ประชาชนได้มีการติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่องด้วย
