เชียงราย - เตรียมเปิดพื้นที่ลานค้าบนดอยแม่สลอง กลางไร่ชากว่า 60,000 ไร่ ระดมชาพันธุ์ดี-สินค้าพื้นบ้าน รวมถึงผลิตภัณฑ์เด่นทั่วสารทิศร่วมออกร้าน ดึงนักท่องเที่ยวขึ้นดอยก่อนสงกรานต์ 54 คาดมีคนเที่ยวไม่น้อยกว่า 5 หมื่น ทำเงินสะพัดเกิน 20 ล้านแน่
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า สำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย มีกำหนดจัดงาน “ย่านการค้าชาดอยแม่สลอง” ขึ้น ระหว่างวันที่ 18-21 มี.ค.นี้ ณ สนามกีฬาโรงเรียนสันติคีรี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย หรือบนดอยแม่สลอง ซึ่งเป็นใจกลางพื้นที่การปลูกชาสำคัญของประเทศไทย และปัจจุบันมีตลาดการค้าสินค้าพื้นเมือง-ของฝาก ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนนิยมแวะเพื่อเดินชม-ซื้อสินค้าที่แปลกตาหรือเป็นของฝากรวมทั้งชมวิถีชีวิตของชาวเขาด้วย โดยในการจัดงานครั้งนี้มีการจัดให้ร้านค้าต่างๆ ดังกล่าวจำนวน 70 แห่ง นำสินค้าที่น่าสนใจเข้าไปจำหน่ายในราคาถูกตลอดงาน
ในงานดังกล่าวยังจัดให้มีสินค้าจากหลากหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ตรัง กระบี่ ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ตาก สมุทรสาคร นครสวรรค์ ฯลฯ นำสินค้าไปจัดแสดงอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้จัดให้มีการประกวดชิมชา ให้เจ้าของผลิตชาได้ปรุง และให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ดื่ม วิเคราะห์คะแนนจากหลายด้าน เช่น ชิมรสชาติ ดมกลิ่น ฯลฯ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชาและอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงมีการจัดเวทีการแสดงบนเวที เช่น ตำนานชาวไทยเชื้อสายจีนบนดอยแม่สลอง การแสดงดนตรี การละเล่น ฯลฯ
นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา พาณิชย์ จ.เชียงราย กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะช่วงก่อนจะถึงเทศกาลสงกรานต์ เหตุที่คัดเลือกชามาจัดงานเพราะมีเกษตรกร ผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ที่ดีอยู่แล้ว
“กิจกรรมนี้เป็นเพียงการนำร่องเท่านั้น ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป เบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าชมงานตลอดงานมากกว่า 50,000 คน ทำเงินสะพัดให้จังหวัดไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท”
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในปัจจุบันมีไร่ชาบนดอยแม่สลองทั้งหมดประมาณ 60,000 ไร่ โดยแบ่งเป็นชาอู่หลงประมาณ 18,000 ไร่และชาพื้นเมืองหรือชาอัสสัม ประมาณ 32,000 ไร่ เกษตรกรมีต้นทุนในการปลูกไร่ละประมาณ 30,000-40,000 บาท และเมื่อปลูกเสร็จก็มีค่าดูแลไร่ละ 3,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ จากการพัฒนาวงการชามาอย่างต่อเนื่องทำให้มีอัตราเพิ่มขึ้นของไร่ชาประมาณ 15-20%
สำหรับราคาใบชาแตกต่างกันไป โดยราคาขายส่งที่ไร่แยกเป็นชาอูหลงเบอร์ 12 กิโลกรัมละ 40-100 บาท อู่หลงเบอร์ 17 กิโลกรัมละ 60-120 บาท ขณะที่ชาที่ไม่ใช้สารเคมีหรือชาอินทรีย์จะมีราคาที่สูงกว่าชาปกติทั่วไปกว่า 10 เท่าตัว โดยชาอินทรีย์อู่หลงเบอร์ 12 มีราคาสูงถึงกว่า 2,000 บาทต่อกิโลกรัม และเบอร์ 17 กิโลกรัมละ 1,000-3,600 บาท