สระแก้ว - จังหวัดสระแก้ว เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัด หลังพบประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนทั้ง 9 อำเภอ
วันนี้ (3 มี.ค.) นายสุเมธา แพรกทอง นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงภัยพิบัติธรรมชาติในจังหวัดสระแก้ว ด้านการเกษตร ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่ เพื่อวางแผนด้านภัยธรรมชาติ ในภาวะภัยแล้ง โดยได้แจ้งศูนย์ทำฝนหลวง ซึ่งขณะนี้ไปทำฝนอยู่ที่จังหวัดระยอง โดยได้ทำฝนหลวงที่ด้านเหนือลม ด้านจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อจะให้ฝนตกด้านจังหวัดด้านภาคตะวันออก เรายังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกษตรจังหวัด ท้องถิ่นที่มีอยู่ทุกอำเภออยู่แล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญของจังหวัดสระแก้วทั้ง 12 แห่ง มีความจุ 197,646 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 68.13% รวมทั้งให้รายงานความเสียหาย และการให้ความช่วยเหลือส่งให้จังหวัดทราบทุกสัปดาห์ และขณะนี้พื้นที่ประสบภัยแล้ง 9 อำเภอ ราษฎรประสบภัย 49,880 ครัวเรือน 175,659 คน, พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย
เช่น พื้นที่นาข้าว จำนวน 867,668 ไร่ พื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 788,475 ไร่ พื้นที่ปลูกข้างโพดเลี้ยงสัตว์ 114,169 ไร่ พื้นที่ปลูกอ้อยโรงงาน 218,500 ไร่ พื้นที่ปลูกไม้ผล พืชผัก 30,000 ไร่
นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรให้งดการปลูกข้าวนาปรัง หรือพืชที่ใช้น้ำมาก โดยให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย หรือพืชอายุสั้นแทน เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำ และขอให้ประชาชนชาวสระแก้ว ระมัดระวัง ดูแลในเรื่องความสะอาดของอาหาร น้ำดื่ม และภาชนะใส่อาหารเพื่อป้องกันโรคที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิดและโรคพิษสุนัขบ้า หรือหากเจ็บป่วยให้รีบเข้ารับบริการ จากหน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้านทันที
วันนี้ (3 มี.ค.) นายสุเมธา แพรกทอง นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงภัยพิบัติธรรมชาติในจังหวัดสระแก้ว ด้านการเกษตร ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่ เพื่อวางแผนด้านภัยธรรมชาติ ในภาวะภัยแล้ง โดยได้แจ้งศูนย์ทำฝนหลวง ซึ่งขณะนี้ไปทำฝนอยู่ที่จังหวัดระยอง โดยได้ทำฝนหลวงที่ด้านเหนือลม ด้านจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อจะให้ฝนตกด้านจังหวัดด้านภาคตะวันออก เรายังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกษตรจังหวัด ท้องถิ่นที่มีอยู่ทุกอำเภออยู่แล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญของจังหวัดสระแก้วทั้ง 12 แห่ง มีความจุ 197,646 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 68.13% รวมทั้งให้รายงานความเสียหาย และการให้ความช่วยเหลือส่งให้จังหวัดทราบทุกสัปดาห์ และขณะนี้พื้นที่ประสบภัยแล้ง 9 อำเภอ ราษฎรประสบภัย 49,880 ครัวเรือน 175,659 คน, พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย
เช่น พื้นที่นาข้าว จำนวน 867,668 ไร่ พื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 788,475 ไร่ พื้นที่ปลูกข้างโพดเลี้ยงสัตว์ 114,169 ไร่ พื้นที่ปลูกอ้อยโรงงาน 218,500 ไร่ พื้นที่ปลูกไม้ผล พืชผัก 30,000 ไร่
นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรให้งดการปลูกข้าวนาปรัง หรือพืชที่ใช้น้ำมาก โดยให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย หรือพืชอายุสั้นแทน เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำ และขอให้ประชาชนชาวสระแก้ว ระมัดระวัง ดูแลในเรื่องความสะอาดของอาหาร น้ำดื่ม และภาชนะใส่อาหารเพื่อป้องกันโรคที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิดและโรคพิษสุนัขบ้า หรือหากเจ็บป่วยให้รีบเข้ารับบริการ จากหน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้านทันที
