“ผาแดง” เปิดเวทีแจงรายงาน สวล.-ดันขยายเหมืองสังกะสีเหนือลุ่มน้ำแม่ตาว

ตาก- กลุ่มบริษัทผาแดงฯ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนรัฐ-ชุมชน ลุ่มน้ำแม่ตาว แจกแจงร่างรายงานผลกระทบ สวล.-สุขภาพ ก่อนดันต่ออายุใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่า-ขยายขุมเหมืองแร่สังกะสี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 มี.ค.) บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อทบทวนร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Public Review) โดยมีบริษัท เอส.พี.เอส คอนซัลติ้ง จำกัด บริษัทที่ปรึกษา และนายเทียนชัย สิงหการ ผู้อำนวยการฝ่ายเหมืองแร่และสำรวจ บริษัทผาแดงฯ ร่วมให้ข้อมูลและแนวทางการแก้ไขปัญหาและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แก่ตัวแทนหน่วยงานภาคราชการ เอกชน สื่อมวลชนและประชาชนในพื้นที่กว่า 500 คน จาก ต.แม่กุ แม่ตาว และ ต.พระธาตุผาแดง รวมทั้งเขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ที่เข้าร่วมรับฟัง

ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้จัดเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Public Scoping) การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นฯ ครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียการ ได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาความถูกต้อง และความครบถ้วนสมบูรณ์ของร่างรายงานฯ รวมถึงนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นเพิ่มเติมต่อร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เพื่อประกอบการขอประทานบัตรในพื้นที่ติดกับขอบเหมืองเดิม ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บกองดินในปัจจุบันให้สามารถขยายบ่อเหมือง เพื่อผลิตแร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจะดำเนินการตามระยะเวลาและแผนผังโครงการทำเหมืองเดิม ไม่ส่งผลให้อายุการทำเหมืองเพิ่มขึ้น

พร้อมกันนี้การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งประกอบการขอต่ออายุใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าในประทานบัตรอีกแปลงหนึ่ง จากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2555 เป็น พ.ศ. 2560 รวมทั้งให้ประทานบัตรที่ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 8 เม.ย. พ.ศ. 2551 ได้รับการพิจารณาควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากเป็นการทำเหมืองที่ร่วมแผนผังโครงการเดียวกัน

ในที่ประชุม ปรากฏว่าผู้เข้าร่วมรับฟังได้เสนอขอให้บริษัทผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เหมืองแร่แม่สอดได้ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและผลกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ ภายหลังปิดเหมืองในปี 2560 คือ 1.การป้องกันตะกอนดิน 2.การระวังฝุ่นละออง 3.การสำรวจต้นน้ำลำห้วยแม่ตาว-ระหว่างลำห้วยและท้ายลำห้วย 4.การป้องกันและรักษาป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติในอนาคต 5.ภาวะเสียงดัง 6.การป้องกันปัญหาภัยแล้งจากการทำเหมืองด้วย

สำหรับแหล่งแร่สังกะสีที่ดอยผาแดง ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นแหล่งสัแร่งกะสีขนาดใหญ่ ซึ่งแร่มีการสะสมตัวจากระดับ 640 เมตร และลงไปลึกถึงระดับ 400 เมตร จากระดับน้ำทำเลปานกลางได้ถูกค้นพบมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 โดยกรมโลหกิจ (ภายหลังเปลี่ยนเป็นกรมทรัพยากรธรณี และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตามลำดับ) และเริ่มมีการสำรวจอย่างจริงจังโดยบรษัท ซูมิโตโมะ เมทัล แอนด์ ไมนิ่ง จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นบริษัท เนชั่นแนล เลด จำกัด จากประเทศออสเตรเลียก็ได้มาสำรวจเพิ่มเติม แต่ก็ได้หยุดการสำรวจไปอีก

ต่อมาบริษัท ไทยซิงค์ จำกัด ได้เข้ามาสำรวจต่อ และได้รับประทานบัตรจำนวน 3 แปลง เมื่อปี พ.ศ. 2515 สัญญาที่ทำไว้กับกรมทรัพยากรธรณีระบุว่าจะต้องสร้างโรงถลุงและผลิตโลหะสังกะสีออกจำหน่ายภายในต้นปี พ.ศ. 2518 ซึ่งบริษัท ไทยซิงค์ เพียงแต่ผลิตแร่สังกะสีไปแล้วกว่า 230,000 ตัน และส่งแร่ไปทดลองถลุงที่สหรัฐอเมริกาจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้ก่อสร้างโรงถลุงตามสัญญา ถึงแม้จะมีการแก้ไขสัญญาไปหลายครั้งแล้ว จึงได้เวนคืนประทานบัตรเมื่อ 4 ธันวาคม 2523 กระทั่ง 23 ธ.ค. พ.ศ. 2523 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้จัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อพัฒนาแหล่งแร่แห่งนี้แทนตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง