ศูนย์ข่าวศรีราชา -สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เดินหน้าปรับโฉมไนท์ซาฟารี สู่มิติใหม่ของการเป็นสวนสัตว์กลางคืนที่มีระบบแสง สี และกิจกรรม Journey to the Jungle เข้ามาเป็นไฮไลต์สำคัญภายใต้ชื่อ “Khoa Kheow After Dark ” ที่จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตยามค่ำคืนของสัตว์ชนิดต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับการเข้าชมยามกลางวัน
นายสุริยา แสงพงษ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เผยถึงแผนพัฒนาสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในปี 2554 ว่า นอกจากจะเน้นจุดขายด้านการท่องเที่ยวที่ยังคงเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ชนิดต่างๆ ของสัตว์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในโซนแอฟริกา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากแล้ว
อีกหนึ่งนโยบายสำคัญ คือ การมุ่งเน้นการจัดการคุณภาพชีวิตของสัตว์และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนยังส่วนสัตว์เขาเขียว ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยจะงดการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เพื่อใช้งบประมาณที่มีในการพัฒนาส่วนต่างๆ ที่มีอยู่แล้วให้เกิดความสมบูรณ์มากขึ้น
ขณะที่ตลาดไนท์ซาฟารี ที่ดำเนินการมานานกว่า 10 ปี ก็จะปรับโฉมสู่การเป็นแหล่งท่อง เที่ยวยามค่ำคืนที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสชีวิตสัตว์ต่างๆ ในช่วงค่ำคืนได้มากขึ้น ภายใต้ชื่อ “Khoa Kheow After Dark ” ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่ในการท่องเที่ยวสวนสัตว์ยามค่ำคืนที่จะมีการนำแสง สี เข้ามาเสริมกับการแสดงความสามารถของสัตว์ และยังจะปรับเส้นทางเดินรถในยามค่ำคืนในเส้นทางใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตสัตว์อย่างใกล้ชิด โดยจะไม่มีการจำกัดจำนวนรอบเข้าชมเช่นในอดีตเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซีย และหลายประเทศแถบเอเชีย
“แม้ว่าการเปิดตลาดไนท์ซาฟารีในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา จะประสบผลสำเร็จ แต่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวก็ยังมีการพัฒนาด้านต่างๆ ที่ยังไม่ครบถ้วน ดังนั้น ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป เรา จะเปิดมิติใหม่ของการเป็นสวนสัตว์ยามค่ำคืน ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการใช้ชีวิตของสัตว์ชนิดต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด โดยจะเปิดขายในลักษณะแพกเกจท่องเที่ยวครบวงจรสำหรับกรุ๊ปทัวร์ และการเปิดขายให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มวอล์กอิน ซึ่งคาดว่าจุดขายใหม่นี้จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากปกติ 3,000 - 5,000 คน ในช่วงวันหยุดให้เพิ่มขึ้นได้ ”
โครงการ “Khoa Kheow After Dark ” ยังมีจุดขายสำคัญอยู่ที่กิจกรรม Journey to the Jungle ที่ขายความแปลกใหม่ของการนำเสนอชีวิตสัตว์ที่ปราศจากการควบคุม ซึ่งในปี 2553 สวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีรายได้จากการเข้าชม และกิจกรรมอื่นๆ ประมาณ 50 ล้านบาท แต่จากการพัฒนาจุดขายด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มครอบครัวชาวไทย และต่างชาติจะเพิ่มขึ้นในปี 2554 และจะทำให้สวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีรายได้ตลอดทั้งปีไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท
“แนวโน้มการท่องเที่ยวในปีนี้ค่อนข้างดี แต่ที่น่ากลัวก็คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมจากภาวะโลกร้อน ซึ่งขณะนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมชีวิตสัตว์ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวไม่ใช่มีเฉพาะคนไทย แต่ยังมีกลุ่มเอเชีย และรัสเซีย ซึ่งสภาพอากาสบ้านเขาไม่เหมือนเรา ก็เลยต้องการที่จะเข้ามาชมสวนสัตว์ของเรา ซึ่งขณะนี้เราก็เตรียมขยายตลาดกลุ่มอินเดียที่มีกำลังซื้อ เพื่อให้เข้ามาท่องเที่ยวกับเราหลังเดินทางเข้ามายังเมืองพัทยา ”
นายสุริยา ยังเผยถึงการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาพัฒนาการท่องเที่ยวในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวว่า นอกจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 5 ราย ทั้งในส่วนของการเปิดให้บริการที่พัก รถกอลฟ์ และส่วนบริการ Journey to the Jungle ฯลฯแล้ว ก็คาดว่าในอนาคตก็ยังจะเปิดโอกาสให้เอกชนกลุ่มอื่นเข้าลงทุนเพื่อเสริมศักยภาพ แต่จะต้องมีการศึกษาผลกระทบของการเข้ามาลงทุนให้รอบคอบ