ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" เผยทั้งปี 53 แบกรับภาระขาดทุนรวมแล้วกว่า 30 ล้านบาท เหตุนักท่องเที่ยวหดหาย เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและกระแสฟีเวอร์ "หลินปิง"เริ่มแผ่ว ระบุเก็บค่าเข้าชมได้เฉลี่ยเพียงเดือนละ 1 ล้านบาทเท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการมีมากกว่า 4-5 เท่าตัว วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเยียวยาด่วนก่อนอยู่ไม่ได้
นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัท มารีนสเคป ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหาร "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" เปิดเผยว่า ในช่วงไฮซีซันนี้ แม้สถานการณ์การท่องเที่ยวในส่วนของ "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" จะปรับตัวกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ยังถือว่าอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างจะย่ำแย่กว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไปกว่าร้อยละ 60 ซึ่งแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมเฉลี่ยประมาณ 1,000 คน เท่านั้น ทั้งๆ ที่เป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว ขณะที่จุดคุ้มทุนต่อวันนั้นจะต้องมีนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการอย่างต่ำวันละ 2,000 คน
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงนั้น นายนฤทัต กล่าวว่า นอกจากปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมาแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการที่กระแสความนิยมในตัวของ "หลินปิง" ลูกแพนด้าลดลง ประกอบกับจำนวนวันพักค้างแรมในจังหวัดเชียงใหม่ของนักท่องเที่ยวก็ลดลงจากเฉลี่ยประมาณ 2 คืน เหลือเพียงคืนเดียวเท่านั้นแล้วเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่นต่อ ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมภายในสวนสัตว์เชียงใหม่รวมทั้ง "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" ลดตามลงไปด้วย
รองประธานกรรมการบริหารบริษัท มารีนสเคป ประเทศไทย จำกัด ระบุว่า ผลการดำเนินการเฉพาะในช่วงปี 2553 ที่ผ่านมา "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" ต้องแบกรับภาระขาดทุนไปแล้วเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท เนื่องจากสามารถเก็บค่าเข้าชมได้เฉลี่ยเดือนละประมาณล้านกว่าบาทเท่านั้น
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ และดูแลสัตว์อยู่ที่ประมาณเดือนละ 5 ล้านบาท ซึ่งแม้จะพยายามอย่างเต็มที่ในการลดค่าใช้จ่ายทุกด้านลงแต่ก็สามารถลดลงให้เหลือได้เพียงประมาณ เดือนละ 4 ล้านบาทเท่านั้น เพราะค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการดูแลสัตว์ที่ต้องทำให้ดีที่สุดและไม่สามารถลดลงไปมากกว่านี้แล้ว
ทั้งนี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นและการต้องแบกรับภาระขาดทุน นายนฤทัต กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พยายามเรียกร้องไปยังภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยยื่นมือเข้ามาช่วยเยียวยาให้ความช่วยเหลือ ทั้งการยื่นหนังสือไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา และทำหนังสือร้องขอไปยังบอร์ดขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการลดผลตอบแทนที่ "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม" จะต้องจ่ายให้องค์การสวนสัตว์ฯ ลงบ้าง ซึ่งในส่วนของผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ได้มีความเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีมาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบอร์ดองค์การสวนสัตว์ฯ ยังไม่มีการตอบรับในเรื่องนี้แต่อย่างใด
"ตลอดช่วงทั้งปี 2553 เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ต้องแบกรับภาระขาดทุนโดยรวมไปแล้ว ไมน้อยกว่า 30 ล้านบาท แม้จะพยายามทุกอย่างเพื่อลดค่าใช้จ่ายลงให้ได้มากที่สุดและเหลือเท่าที่จำเป็นแล้วก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังภาครัฐเพื่อให้ช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่มีการตอบรับ โดยหากสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่ดีขึ้นและยังไม่มีความช่วยเหลือใดๆ ยอมรับตามตรงว่าคงจะอยู่ไม่ได้แน่" นายนฤทัต กล่าวอย่างขอความเห็นใจ
ส่วนแผนการตลาดที่ตั้งเป้าหมายจะดำเนินการในปี 2554 นี้ นั้น รองประธานกรรมการบริหารบริษัท มารีนสเคป ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า นอกจากการทำการตลาดในกลุ่มการจัดประชุมสัมมนาของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่ถือเป็นลูกค้าหลักในปัจจุบันแล้ว ในปีนี้มีแผนที่จะประชาสัมพันธ์และทำการตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เช่น ตลาดนักท่องเที่ยวจากจีนและอินเดีย ที่มองว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง โดยคาดหวังว่าน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในระดับหนึ่ง