ตาก- นายกเล็กนครแม่สอด ชี้ต้องเร่งสร้างเขตเศรษฐกิจชายแดนฯ-อปท.รูปแบบพิเศษ ให้ท้องถิ่นบริหารพื้นที่ชายแดนไทย-พม่าแทนส่วนกลาง หลังจีนรุกเข้าตลาดพม่าหนัก ฮุบการค้าอัญมณี - วัว ที่เคยมีมูลค่าการค้ามากกว่า 2 แสนล้าน/ปีไปแล้ว
นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ให้การต้อนรับ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตคณะผู้บริหารและสมาชิกรวมทั้งผู้นำชุมชนจากเทศบาลนครภูเก็ต และคณะนักศึกษาปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์การเมืองจากมหาวิทยาลัยบูรพา ที่เดินทางมาศึกษาดูงาน การเตรียมพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ “นครแม่สอด” เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ-การค้าชายแดน พร้อมกับเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นครแม่สอดและอุทยาการเรียนรู้ทีปังกรรัศมีโชติของเทศบาลนครแม่สอด
นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ได้บรรยายสรุปการขับเคลื่อนความคืบหน้าการยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ นครแม่สอด และเตรียมการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแม่สอด ตามมติคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้จีนได้รุกเข้ามายังตลาดในพม่า โดยแย่งตลาดการค้าหยกและอัญมณีจากไทยไปแล้ว จากเดิมที่ไทย-พม่าเคยมีการค้าอัญมณีร่วมกันปีละไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท นอกจากนี้ตลาดการค้าโค ไทยก็เสียฐานการตลาดไปให้จีนแล้วจำนวนมาก ยังไม่รวมถึงการค้าชายแดนทั่วไป
สาเหตุที่จีนเริ่มรุกตลาด เพราะบางครั้งหน่วยงานราชการของไทยในพื้นที่ชายแดนมีมากไป มีความสลับซับซ้อนในการทำงาน จึงควรกระจายอำนาจการบริหารจัดการด้านการค้าชายแดน-การส่งเสริมการลงทุน-การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้กับท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล โดยเร่งจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ - เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแม่สอด และนิคมอุตสาหกรรม เพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินการกับภาคราชการและหันมาให้ท้องถิ่นเป็นผู้บริการแทน
“เรามีความจำเป็นต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น โดยการเชื่อมโยงท้องถิ่นกับการเมือง-การปกครอง และเศรษฐกิจควบคู่กันไป ต้องมีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจโดยอาศัยท้องถิ่น โดยผู้บริหารท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในท้องถิ่น” นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าว