อุบลราชธานี -ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ควงแขนว่าที่ผู้สมัครเดินตลาดสำรวจความเดือดร้อนใน จ.อุบลราชธานี พบสินค้าแพง น้ำมันปาล์มขาดตลาด สับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไร้ความสามารถ อนาคตชาวบ้านอาจต้องเข้าคิวซื้อข้าวสาร เตือนระวังประชาชนลุกฮือไล่เหมือนหลายประเทศในโลกอาหรับ
วันนี้( 27 ก.พ.) ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคเพื่อไทย พร้อม นายเบาหวิว มณีแจ่ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี เดินสำรวจภาวะราคาสินค้าและการขาดแคลนน้ำมันปาล์มในตลาดทยาประศาสตร์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดย ร.ต.ท.เชาวริน ได้สอบถาม นางคำไพ ยืนยาว แม่ค้าขายสินค้าเบ็ดเตล็ดได้ความว่า แผงจำหน่ายสินค้าของนางคำไพ ไม่มีน้ำมันปาล์มวางจำหน่ายมานานกว่าครึ่งเดือน จึงได้ขึ้นป้ายแจ้งให้ลูกค้าทราบ เพราะไม่ต้องการตอบคำถามและกันถูกต่อว่ากักตุนสินค้า
ร.ต.ท.เชาวรินแจ้งกับนางคำไพ และแม่ค้ารายอื่นว่า ตามที่รัฐบาลบอกไว้กับสภาในวันจันทร์นี้ จะมีน้ำมันปาล์มส่งเข้าตลาดอย่างทั่วถึง จึงให้รอดูจะเป็นความจริงหรือไม่ ต่อจากนั้น ร.ต.ท.เชาวริน ยังพูดคุยสอบถามเรื่องราคาสินค้า อาทิ ราคาเนื้อสัตว์ ราคาผัก ที่นำมาวางขายในตลาด พบว่าราคาสินค้าทุกกลุ่มได้ถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก
ระหว่างที่ ร.ต.ท.เชาวริน กำลังเดินสำรวจราคาสินค้า พร้อมแนะนำตัว นายเบาหวิว มณีแจ่ม ว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยคนใหม่ มีกลุ่มชาวบ้านที่เป็นสุภาพสตรีได้เดินเข้ามาถาม ร.ต.ท.เชาวริน ถึงเรื่องการส่งตัวผู้สมัครที่อาจซ้ำซ้อนกับผู้สมัครคนเก่า คือ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.เพื่อไทยคนปัจจุบัน
ร.ต.ท.เชาวริน ชี้แจงว่า ยังไม่มีความแน่นอนเรื่องตัวผู้สมัครในระบบ ส.ส.เขต การมาวันนี้ เป็นเพียงการแนะนำตัว ซึ่ง นายเบาหวิว อาจเป็นผู้สมัครในระบบสัดส่วนก็ได้ คงต้องรอให้ถึงเวลาส่งลงสมัครรับเลือกตั้งจริง จึงจะรู้ว่าใครได้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยในเขตเลือกตั้งนี้
ต่อมา ร.ต.ท.เชาวริน ให้สัมภาษณ์ว่า จากการเดินสำรวจและพูดคุยสอบถามจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ได้รับการร้องเรียนว่า ในตลาดยังไม่มีน้ำมันปาล์มขายให้ผู้บริโภค จึงได้แต่ปลอบใจในยามที่รัฐบาลเข้ามาบริหารบ้านเมือง แต่ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ก็ต้องใช้ความอดทนอดกลั้น แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ หลังปัญหาน้ำมันปาล์มผ่านไปแล้ว จะต้องเข้าคิวซื้อน้ำตาลทราย หรือเข้าคิวซื้อข้าวสารกันอีกหรือเปล่า
“ตนได้ข่าวว่า ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด นายอภิสิทธิ์ ในการระบายข้าวของ อ.ต.ก.หรือตลาดเพื่อการเกษตร ทำให้ในโกดังไม่มีข้าวเหลืออยู่ในสต๊อก ต้องรอข้าวฤดูใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะวิกฤตในสังคมไทยรอบใหม่อย่างชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อน”
ร.ต.ท.เชาวริน ยังกล่าวเตือนรัฐบาลถึงภาวะราคาสินค้าขณะนี้ ว่า ข้าวของแพงอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน อยากให้ประชาชนดูอย่างในประเทศตะวันออกเกลาง หรือในประเทศแอฟริกาเหนือ การลุกฮือต่อต้านรัฐบาลมาจากเรื่องปากท้อง และเรื่องความยากจนของประชาชนเป็นสาเหตุหลัก จึงเป็นสัญญาณที่ฝ่ายรัฐบาลต้องระมัดระวังไว้ให้ดีด้วย