น่าน - เตรียมแจ้งศิลปากร ตรวจสอบด่วน หลังแผ่นดินไหวในลาว ทำวิหารหลวงอายุ 500 ปี คู่วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดเก่าแก่คู่บ้านเมืองน่านร้าว
รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า ชาวบ้านทั่วเมืองน่าน ต่างพากันตื่นตระหนกกับแรงสั่นสะเทือนจากการเกิดแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 22.53 น.ของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา โดยได้โทรศัพท์เข้าไปสอบถามที่อุตุนิยมวิทยาจังหวัดน่าน และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ตลอดตั้งแต่ช่วงเช้า
โดยเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยในสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ชั้นที่ 2 ขึ้นไปต่างหวาดกลัว เนื่องจากรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนนานประมาณ 1-3 วินาที นอกจากนี้ ที่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ, อำเภอบ่อเกลือ และอำเภอแม่จริม ซึ่งเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ติดประเทศลาว สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่าพื้นที่อื่น
ที่อำเภอบ่อเกลือ นายประสิทธิ์ ดุษฎีวงศ์ เจ้าหน้าที่ปกครองที่อยู่เวรยามรักษาความปลอดภัยตัวอำเภอ กล่าวว่า ดวงไฟสั่นไหวเวลานานถึง 3 วินาที ตัวอาคารที่ว่าการสั่นสะเทือนรู้สึกได้อย่างชัดเจน แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบความเสียหายตามโครงสร้างอาคารต่างๆ ทั้งอาคาร ร.พ.บ่อเกลือ โรงเรียนบ่อเกลือที่เป็นอาคารตึก
ขณะที่ นายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ได้เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 5.4 ริกเตอร์ ในประเทศลาว เมื่อเวลา 22.53 น.ของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 โดยศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหว อยู่ห่างจากอำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน 55 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย คาดว่าจุดที่เกิดแผ่นดินไหว เกิดขึ้นบริเวณเทือกเขาแขวงไซยะบุลี ซึ่งเป็นแขวงที่มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดน่าน เลย อุตรดิตถ์ โดยบริเวณดังกล่าวเป็นเทือกเขาสูง คล้ายจังหวัดน่าน ไม่ค่อยมีประชากรอาศัยอยู่ ไม่น่ามีผลกระทบรุนแรง อาจจะมีเพียงที่เมืองเงิน เมืองหงสา แขวงไซยะบุลี ที่กลุ่มบ้านปูของไทยเข้าทำเหมืองลิกไนต์ด้วย ยังไม่แน่ใจว่าได้รับผลกระทบหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งปลูกสร้างในจังหวัดน่านเช่นกัน ซึ่งจากการสำรวจความเสียหาย วิหารหลวงที่อยู่ติดองค์พระธาตุแช่แห้ง อายุกว่า 500 ปี คู่กับองค์พระธาตุได้รับความเสียหายหลายจุดมีรอยแตกร้าวรอบตัววิหาร และที่สำคัญหลังคาทิศตะวันตกติดองค์พระธาตุกระเบื้องแตก ทรุด คาดที่ยึดเสียหาย 3 จุด ยาว 3 เมตร
ส่วนองค์พระธาตุแช่แห้งกำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะ เพื่อเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองในฐานะเป็นพระธาตุปีเถาะปี แห่งพระชนมวารพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีผ้าหุ้มรอบองค์พระธาตุยังไม่สามารถเห็นความเสียหายได้
พระครูวิสิฐ นันทวุฒิ กล่าวว่า จะแจ้งให้กรมศิลปากรในพื้นที่ที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบวิหาร-องค์พระธาตุที่อยู่ระหว่างบูรณะโดยละเอียดอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดวิหารแห่งนี้เคยบูรณะเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ภายในพระวิหารหลวง มีพระประธานพระเจ้าอุ่นเมือง และพระเจ้าล้านทอง มีอายุกว่า 500 ปีเช่นกัน
