บุรีรัมย์ - ครอบครัวและญาติแรงงานชาวบุรีรัมย์ ที่ไปทำงานประเทศลิเบีย กว่า 20 ราย เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับจัดหางานจังหวัด หลังติดต่อสามี หรือญาติที่ลิเบียไม่ได้ ห่วงเรื่องความปลอดภัย ทั้งที่พัก และอาหาร หากเกิดสถานการณ์ประท้วงรุนแรง วอนให้ช่วยเหลือด้านความปลอดภัย ในการเดินทางกลับ โดยที่ จ.บุรีรัมย์ มีแรงงานไปทำงานที่ลิเบีย 480 คน
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น.ครอบครัวและญาติแรงงานชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ที่เดินทางไปทำงานยังประเทศลิเบีย กว่า 20 ครอบครัว เกิดความวิตกกังวลจากเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงที่ประเทศลิเบีย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือ และยื่นหนังสือผ่าน นายอิทธิ คงวีระวัฒน์ จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ประสานทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และรัฐบาล เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านความปลอดภัย ทั้งที่พัก และอาหาร หากเกิดสถานการณ์ประท้วงรุนแรง ก็ให้ช่วยเหลือในการนำแรงงานเดินทางกลับประเทศด้วยความปลอดภัย
โดยขณะนี้ ครอบครัว และญาติพี่น้อง ของแรงงานชาวบุรีรัมย์บางรายไม่สามารถติดต่อสามี หรือญาติ ที่ไปทำงานที่ประเทศลิเบียได้ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากเหตุประท้วงรัฐบาลในประเทศลิเบียที่กำลังรุนแรงบานปลาย
ขณะที่ทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ให้ญาติของแรงงานที่มาร้องขอความช่วยเหลือ ได้กรอกข้อมูลเบื้องต้น รวมทั้งความต้องการที่จะให้ช่วยเหลือไว้ เพื่อจะประสานทางกรมการจัดหางาน ให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ส่วนญาติแรงงานที่ยังไม่ได้มาแจ้งขอรับความช่วยเหลือ ทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปที่บ้านเพื่อสอบถามข้อมูลของแรงงาน ความประสงค์ที่ต้องการให้ช่วยเหลือ พร้อมทั้งชี้แจงสถานการณ์เหตุการณ์ประท้วงที่ประเทศลิเบียให้ญาติของแรงงานได้รับทราบอย่างต่อเนื่องด้วย
นางจุรี ชุบไธสง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 8 บ้านหนองเรือ ต.กู่สวนแตง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ กล่าวทั้งน้ำตา ว่า สามีเดินทางไปทำงานประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2553 โดยผ่านทาง บริษัท จัดหางานเงินและทองพัฒนา จำกัด ตำแหน่งคนงานทั่วไป อยู่ที่ EL ALEMEIN STREET NO.26,EL FUW P.O.BOX 17170 BENGHAZI ลิเบีย ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ประท้วงเกิดขึ้น จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อสามีที่เดินทางไปทำงานยังประเทศลิเบียได้ จึงกังวลและเป็นห่วงสามีมาก เกรงจะเป็นอันตราย
จึงอยากเรียกร้องให้ทางกระทรวงแรงงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการช่วยเหลือสามีทั้งเรื่องความปลอดภัย ที่พัก และอาหาร อย่างเร่งด่วนด้วย เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์สงบลง ก็อยากให้สามีทำงานต่อ เพราะยังมีหนี้สินจากการกู้ยืมเงินนายทุน เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานกว่า 130,000 บาท หากยังทำงานต่อก็อยากให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ด้วย
ด้าน นางอนงค์ ผาสุขสม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 8 บ้านหนองเรือ ต.กู่สวนแตง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ เล่าทั้งน้ำตา ว่า สามีเพิ่งเดินทางไปทำงานประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2554 ที่ผ่านมา ตำแหน่งช่างประกอบท่อ อยู่ที่ P.O.BOX 80062 GARARISH ST.TRII LIBYA ลิเบีย ก็ยังไม่สามารถติดต่อสามีได้เลย ไม่รู้ว่ามีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง แต่ทราบจากเพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่าสามียังปลอดภัยดี จึงอยากเรียกร้องให้ทางรัฐได้ช่วยเหลือ และติดต่อแรงงานไทยที่ลิเบียว่าทุกคนยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ เพราะว่าญาติทางประเทศไทยมีความเป็นห่วง เนื่องจากสถานการณ์ประท้วงในประเทศลิเบียเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ นายอิทธิ คงวีระวัฒน์ จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากข้อมูลมีแรงงานชาวบุรีรัมย์ไปทำงานที่ประเทศลิเบีย จำนวน 480 คน ใน 9 อำเภอ ได้แก่ อ.พุทไธสง, คูเมือง, บ้านใหม่ไชยพจน์, เฉลิมพระเกียรติ, นาโพธิ์, กระสัง, ลำปลายมาศ, แคนดง และ อ.สตึก ซึ่งขณะนี้มีญาติของแรงงานได้เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือแล้วจำนวน 22 ครอบครัว แต่ยังไม่มีแรงงานที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ
อย่างไรก็ตาม ทางจัดหางานจังหวัดก็ได้มีการประสานกับทางกรมการจัดหางาน ให้ดำเนินการช่วยเหลือแรงงานทั้งด้านที่พัก อาหาร และด้านความปลอดภัยแล้ว พร้อมทั้งจะได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุรุนแรงบานปลาย ก็จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานไปยังที่ปลอดภัย หรือเดินทางกลับประเทศในทันที
ขณะเดียวกัน ทางจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสอบถามข้อมูลจากญาติแรงงาน ที่ไปทำงานประเทศลิเบีย ถึงความต้องการของญาติและแรงงานว่าประสงค์จะให้ทางราชการช่วยเหลือแรงงานที่ลิเบียด้านใดบ้าง เพื่อจะนำข้อมูลความต้องการรายงานไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้นั้น ยังได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ประท้วงที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ญาติของแรงงานที่ไปทำงานลิเบียเกิดความวิตกกังวล และยืนยันว่า ทางภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือแรงงานลิเบียทุกคน