น่าน- สภาพอากาศปรวนแปร ทำสวนพริกเกษตรกรท่าวังผา เจอโรคราน้ำค้างระบาด เสียหายหลายพันไร่ ซ้ำพ่อค้าคนกลางกดราคาอ้างผลผลิตไม่มีคุณภาพ
นายสงัด มะโนปิน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และนายวิจารณ์ เชียงหนุ้น ปลัด อบต. ยม พร้อมเกษตรกรเจ้าของสวนพริกบ้านสบบั่ว หมู่ที่ 2 ตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ได้เข้าตรวจสภาพสวนพริกของเกษตรกร ซึ่งกำลังได้รับความเสียหายจากโรคราน้ำค้างระบาด เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนในขณะนี้ ซึ่งส่งผลให้พริกที่กำลังออกผลผลิตมีสภาพต้นพริกต้นใบเหี่ยวเฉา หงิกงอ บริเวณขั้วผลพริกจะหลุดร่วงง่าย และผลพริกส่วนใหญ่จะเป็นแผลและเน่า โดยขณะนี้ได้ระบาดลุกลามขยายวงกว้างไปแล้วกว่า 2 พันไร่ สร้างความเสียหายจำนวนมาก ทำให้ราคาตก ขายไม่ออก และยังถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา
นายสวิง เขยตุ้ย เจ้าของสวนพริกบ้านสบบั่ว ต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน กล่าวว่า ตนปลูกพริกทั้งหมด 4 ไร่ ลงทุนไปเกือบ 4 หมื่นบาท หากผลผลิตดีก็จะได้พริกทั้งหมดไร่ละ 2.5 ตัน ปี โดยปีที่แล้วราคาพริกกิโลกรัมละ 14-22 บาทขึ้นไป มีรายได้รวมกว่า 80,000 บาท แต่ปีนี้ราคาตกเนื่องจากพริกเป็นโรค จึงถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาโดยอ้างว่าพริกไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงตามความต้องการของตลาด จึงรับซื้อพริกได้เพียงราคากิโลกรัมละ 5-7 บาทเท่านั้น ทำให้ขาดทุนครึ่งต่อครึ่ง ชาวสวนได้รับความเดือดร้อน จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเร่งด่วน
ด้านนายสงัด มะโนปิน รองนายก อบต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน เปิดเผยว่า อำเภอท่าวังผาเป็นแหล่งใหญ่ที่มีการปลูกพริกมากที่สุดในจังหวัดน่าน โดยกระจายอยู่ในตำบลศรีภูมิ,จอมพระ,ยม,ป่าคา,ท่าวังผา และตาลชุม รวม 2,831 ไร่ ซึ่งน่าจะได้ผลผลิต 7 พันตัน โดยเฉพาะที่ บ้านสบบั่ว ตำบลยม มีเกษตรกรปลูกมากที่สุดรวม 1 พันกว่าไร่ ปีๆหนึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรครอบครัวละ 7-8 หมื่นบาท
แต่ปีนี้สภาพอากาศแปรปรวนส่งผลให้โรคราน้ำค้างระบาดในสวนพริกที่กำลังออกผลขณะนี้ไม่สมบูรณ์ เหี่ยว เฉา หงิกงอ เป็นโรค ทำให้พ่อค้าคนกลางและโรงงานที่รับซื้อพริกปฏิเสธ หรือถ้ารับซื้อก็กดราคาต่ำกว่าครึ่ง สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรผู้ปลูกพริกจำนวน 1,100 ครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้แจ้งไปยังเกษตรอำเภอท่าวังผาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะโรคราน้ำค้างได้ระบาดไปทั่วแล้ว ซึ่งคงทำได้เพียงแต่ไปเจรจากับพ่อค้าคนกลางและหาช่องทางระบายสินค้าให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น