“ดาว์พงษ์-บิ๊กเยิ้ม”โร่เจรจาผู้นำทหารเขมร“หยุดยิงถาวร”-โอ่ชื่นมื่นนำสันติสุขสู่ “เขาวิหาร”

ศรีสะเกษ - ปชช.ชาวกันทรลักษ์ประสบภัยสู้รบ“เขาพระวิหาร”แห่รับเงินสงเคราะห์ครอบครัวละ 1,000 บาท ด้านสโมสรราชนาวีมอบสิ่งของให้กับชาวบ้าน-นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ ขณะ“พล.อ.ดาว์พงษ์ -บิ๊กเยิ้ม”โร่เจรจา “ฮุน มาเนต”ลูกชาย “ฮุน เซน” และคณะผู้นำทหารเขมรตกลงหยุดยิงถาวรที่ “ช่องสะงำ” “มทภ.2”เผยเจรจาทหารเขมรชื่นมื่น เป็นไปในแนวทางที่ดี จะนำไปสู่สันติสุขบริเวณเขาพระวิหาร และเป็นผลดีต่อ 2 ประเทศ



เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลาประชาคมบ้านภูมิซรอล หมู่ 12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนผู้ประสบภัยสู้รบจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เดินทางมารับเงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัยที่ทางราชการนำมามอบให้ โดยในวันนี้เป็นประชาชนที่ตกค้างยังไม่ได้รับเงินสงเคราะห์ ซึ่งในพื้นที่ ต.เสาธงชัยมีจำนวน 802 ครัวเรือน และ ต.ภูผาหมอก จำนวน 576 ครัวเรือน และวันนี้ได้ดำเนินการแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่จนครบทั้ง 2 ตำบลแล้ว โดยประชาชนผู้ประสบภัยจะได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัวละ 1,000 บาท

ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณหอประชุมโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ร.อ.สุรพล จันทน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการกีฬา บริษัท สยามนาวี ลีก คัพ จำกัด พร้อมด้วยคณะนักกีฬาจากสโมสรสยามนาวี ได้เดินทางนำสิ่งของต่างๆ มามอบให้กับประชาชนและเด็กนักเรียนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร โดยมีข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อไก่สด อุปกรณ์การเรียนและการกีฬา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชนและเด็กนักเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดน ก่อนเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลกับสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี ที่สนามศรีนครลำดวน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ในช่วงบ่ายของวันนี้ (19 ก.พ.) ซึ่งได้สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับบรรดานักเรียนที่เป็นแฟนฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างมาก เพราะสโมสรราชนาวีมีนักเตะชื่อดังอยู่ในทีมหลายคน

นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ชาวบ้านชาวภูมิซรอลและประชาชนทุกคนในเขต ต.เสาธงชัย ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหารรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ที่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศทุกภาคส่วนได้นำเอาความช่วยเหลือในทุกด้านมาให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามในครั้งนี้ ซึ่งแม้ว่าขณะนี้เสียงปืนใหญ่และเสียงระเบิดจะเงียบมาประมาณ 3 วันแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังไม่หายจากอาการหวาดผวาภัยสงคราม

“เมื่อคืนที่ผ่านมามีเสียงฟ้าคะนองดังขึ้น 2-3 ครั้ง ในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ทำให้ชาวบ้านภูมิซรอลและหลายหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย พากันหอบลูกจูงหลายวิ่งเข้าหลุมหลบภัยกันจ้าละหวั่น เนื่องจากคิดว่าเป็นเสียงปืนใหญ่จากฝ่ายกัมพูชา แต่ซักครู่ก็มีฝนตกปรอย ๆ ลงมา ทำให้รู้ว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง จึงได้พากันออกจากหลุมหลบภัยมาพักผ่อนหลับนอนอยู่ในบ้านเรือนตามปกติตลอดคืน โดยที่ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น” นายวีรยุทธ กล่าว

เวลาประมาณ 11.30 น. วันเดียวกันนี้ ( 19 ก.พ.) ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการกองทัพบก พร้อมด้วย พล.อ.นิพัทธ ทองเล็ก อดีตเจ้ากรมชายแดนทหาร ,พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ,พล.ต.ชวลิต ชุณหประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) และคณะนายทหารระดับสูงระดับผู้บังคับการกรมในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ได้เดินทางไปพบปะประชุมลับร่วมกับ พล.ท.ฮุน มาเนต รองผู้บัญชาการทหารบก (รองผบ.ทบ.) และผบ.หน่วยทหารองครักษ์ บุตรชาย สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา , พล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ,พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา และคณะ ที่ร้านอาหารซำเมา อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย เพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงถาวรตามมติของ UNSC ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนของไทยติดตามเข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด โดยอ้างว่าเป็นความลับ ใช้เวลาเจรจากันประมาณ 1 ชั่วโมง (ชม.) การเจรจาจึงยุติลง

พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า การเจรจากับฝ่ายผู้นำทหารของกัมพูชาในครั้งนี้เป็นไปด้วยความชื่นมื่น มีบรรยากาศที่เป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน ซึ่งจะเป็นการนำไปสู่สันติสุขบริเวณเขาพระวิหาร ส่วนสรุปเนื้อหาการเจรจานั้น เป็นไปในแนวทางที่ดี ซึ่งตนเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แม้ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รอบเขาพระวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณภูมะเขือ จะอยู่ในสภาวะที่กำลังเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ปรากฏว่าทหารฝ่ายกัมพูชายังคงมีการยั่วยุฝ่ายทหารไทยอยู่เป็นประจำ เช่น การยิงปืนสั้นในแนวของตัวเองเพื่อเป็นการก่อกวนทหารไทย ซึ่งทุกครั้งที่ทหารฝ่ายกัมพูชายิงปืนก่อกวนทหารไทยทุกนายที่ตรึงกำลังอยู่แนวหน้าจะเข้าที่กำบังทันที แต่ไม่ได้มีการยิงตอบโต้ทหารฝ่ายกัมพูชา เนื่องจากวิถีกระสุนของทหารกัมพูชาไม่ได้ยิงเข้ามาในบริเวณฐานที่ตั้งของทหารไทย

ล่าสุดขณะนี้บรรยากาศบริเวณรอบเขาพระวิหาร การตรึงกำลังของทหารทั้งสองฝ่ายบรรยากาศยังคงตึงเครียด ซึ่งทหารไทยทุกนายได้มีการขึ้นลำอาวุธประจำกายพร้อมที่จะตอบโต้ทันที หากฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย