พิจิตร - ผู้ว่าฯพิจิตร ประสานกรมชลประทาน ผันน้ำจากแม่น้ำน่าน และน้ำจากเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เข้าคลองชลประทานช่วยพื้นที่การทำนาปรังลุ่มน้ำยมแก้วิกฤตขาดน้ำ พร้อมย้ำเตือนชาวนาต้องทำนาปรังแค่ครั้งเดียว หลังน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่วิกฤต
วันนี้ (17 ก.พ.) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกรู ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยชลประทานจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่แก้สถานการณ์ภัยแล้งของลุ่มน้ำยม โดยพบว่า ขณะนี้แม่น้ำยม ลดลงจนแห้งขอดส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำนาปรังในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง และอำเภอโพทะเล ซึ่งมีพื้นที่การทำนาปรังกว่าหนึ่งแสนไร่
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้สั่งการให้ชลประทานพิจิตร ประสานกับชลประทานพิษณุโลก ผันน้ำจากแม่น้ำน่านและเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เข้าสู่คลองสายใหญ่ของโครงการชลประทานพลายชุมพล ให้น้ำไหลเข้าสู่แม่น้ำยมในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ทำนาปรังในช่วงนี้ ให้รอดพ้นจากวิกฤตภัยแล้ง โดยได้เปิดประตูน้ำให้ไหลผ่านระบบคลองชลประทานถึง 4 คลอง ซึ่งจะใช้เวลาผันน้ำด้วยวิธีการดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้เป็นระยะเวลา 5 วัน
ซึ่งภายหลังจากได้น้ำชาวนาต่างดีใจ และเร่งสูบน้ำเข้านากันอย่างจ้าละหวั่นเสียงเครื่องสูบน้ำดังสนั่นลั่นทุ่ง
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้วิงวอนเกษตรกรชาวนาทั้งในและนอกเขตชลประทาน ขอให้ทำนาปลูกข้าวในฤดูกาลนาปรังเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 เขื่อนในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำเหลือเพียงร้อยละ 55-60% ของปริมาณกักเก็บเท่านั้น
อีกทั้งในช่วงเดือนเมษายน กรมชลประทาน ก็จะงดการจ่ายน้ำลงสู่ระบบคลองชลประทานด้วย ซึ่งถ้าหากเกษตรกรชาวนายังฝืนที่จะทำนาปลูกข้าวนาปรังรอบ 2 หากเกิดความเสียหายทั้งราชการก็หมดหนทางที่จะเยียวยาและจะไม่รับผิดชอบหากเกิดวิกฤตภัยแล้ง